เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้(21) ดิ่งลงแรง หลังไซปรัส มุ่งหน้าสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้จากวิกฤตภาคธนาคาร อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้กลับผลักให้ทองคำปิดบวก เหตุนักลงทุนหันมาเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับลงอย่างแรง หลังธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) เตือนว่าอาจระงับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เหล่าธนาคารของไซปรัส จนกว่าประเทศแห่งนี้จะบรรลุข้อตกลงกู้ยืมเงินอย่างช้าที่สุดในวันจันทร์หน้า(25) ขณะที่วิกฤตไซปรัสนี้ ก็ฟื้นคืนความกังวลเสถียรภาพของยูโรโซนขึ้นมาหลอกหลอนนักลงทุนอีกรอบ
ปัจจัยแห่งความกังวลต่อวิกฤตภาคธนาคารของไซปรัส ประกอบกับงานรายผลประกอบการอันอ่อนแอของบางบริษัทในวอลล์สตรีท ก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(21) ปิดลบพอสมควร
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 90.24 จุด (0.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,421.49 จุด แนสแดค ลดลง 31.59 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,222.60 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 12.91 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,545.80 จุด
อย่างไรก็ตามข้อวิตกว่าไซปรัสอาจผิดนัดชำระหนี้ กลับผลักให้ราคาทองคำวานนี้(21) ขยับขึ้นเหตุนักลงทุนหันมาซื้อเก็บโลหะเหลืองมีค่า ที่ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์มี่มีความเสี่ยงต่ำท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,613.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์