เอเจนซี - เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์สหรัฐฯ มึนงงต่อการหายตัวไปอย่างลึกลับของสุนัขกว่า 30 ตัวทางใต้ของมลรัฐไอดาโฮ ขณะที่เหล่าผู้รักสัตว์ก็เริ่มวิตกกังวลมากขึ้น หลังพบซากสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชปเพิร์ดตัวหนึ่งมีร่องรอยถูกทุบตีบริเวณหัว ก่อข้อสงสัยว่าอาจเป็นการฆ่าเพื่อบูชายัญ
แดบบี แบล็กวูด ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงสัตว์ ในเมืองทวินฟอลล์ส มลรัฐไอดาโฮ เผยในจำนวนสุนัขที่หายไปนั้นมีความหลากหลายทั้งขนาด สายพันธุ์และอายุ “มันหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับหายวับไปในอากาศ”
แบล็กวูดเล่าต่อว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีสุนัขกว่า 30 ตัวหายสาบสูญในเมืองทวินฟอลล์สและชุมชุนใกล้เคียง อันเป็นพื้นที่ด้านการเกษตรทางภาคกลางตอนใต้ของมลรัฐโอดาโฮ ขณะที่เมื่อช่วงต้นเดือนพ่อลูกคู่หนึ่งปีนป่ายเนินเขาไปตามริมหินผาและหุบเขาของแม่น้ำสเนค ทางตะวันออกของเมืองทวินฟอลล์ส และพบซากของสุนัขธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดตัวหนึ่งมีร่องรอยถูกทุบตีด้วยหินบริเวณหัวจนตาย
ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงสัตว์รายนี้เผยด้วยว่า สุนัขตัวดังกล่าวถูกพบในพื้นที่ซึ่งเล่าขานกันว่าเป็นคอกสัตว์ของปีศาจ และร่างของมันมีลักษณะการถูกฆ่าเพื่อประกอบพิธี คือโดนทุบตีด้วยหินแล้วคลุมซากสุนัขด้วยผ้าสีม่วง
คดีนี้จุดชนวนให้ทางองค์กรสังคมมนุษย์แห่งสหรัฐฯ ตั้งรางวัล 5,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมและลงโทษผู้กระทำผิด ขณะที่เวลานี้เจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเร่งมือสืบสวน อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครออกมาอ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากรณีนี้จะเกี่ยวข้องกับเหล่าสุนัขหลายสิบตัวที่หายไปหรือไม่ “มีสุนัขหายไปเกือบทุกวัน และที่วุ่นหนักก็คือพวกมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย” ลิซา เคาฟ์แมน ผู้อำนวยการองค์กรสังคมมนุษย์แห่งสหรัฐฯ กล่าว ขณะที่ จอห์น กูดวิน หัวหน้าฝ่ายนโยบายป้องกันการทารุณสัตว์จากองค์กรเดียวกันเสริมว่าคดีนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการลักขโมยเพื่อนำไปแข่งขันกัดสุนัข
โฆษกของทวินฟอลล์สเผยว่า เหล่าเจ้าหน้าที่ของเมืองได้ทำการปรึกษากับองค์กรสังคมมนุษย์และเจ้าหน้าที่หน่วยงานช่วยเหลือสัตว์อื่นๆ เกี่ยวกับเหล่าสุนัขที่สูญหาย เพื่อหาทางคลี่คลายคดีและหามาตรการป้องกัน พร้อมกันนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังเรียกร้องชาวบ้านช่วยแจ้งเหตุเป็นการด่วนหากพบเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ