เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ประณามการนำเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ บี-52 สตราโตฟอร์เทรสส์ ของสหรัฐฯ เข้ามาฝึกบินเหนือคาบสมุทรเกาหลี โดยชี้ว่าเป็น “การยุยั่วที่ให้อภัยไม่ได้” และพร้อมตอบโต้ทางททารทันทีหากวอชิงตันยังไม่ระงับแผนฝึกบินดังกล่าว
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ส่งเครื่องบิน บี-52 อย่างน้อย 1 ลำ เข้าร่วมภารกิจซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้
“นี่เป็นการยั่วยุที่ให้อภัยกันไม่ได้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุในแถลงการณ์ ซึ่งเผยแพร่ทางสำนักข่าวกลางเคซีเอ็นเอ
“สหรัฐฯ นำเครื่องบินโจมตีทางยุทธศาสตร์ด้วยอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาบนคาบสมุทรเกาหลี ในเวลาที่สถานการณ์กำลังคุกรุ่นจนใกล้เกิดสงคราม”
ความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลีกลับมาร้อนระอุที่สุดในรอบหลายปี หลังจากเปียงยางทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 ไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ตอบโต้ด้วยมติคว่ำบาตรที่หนักหน่วงกว่าเก่า
บทลงโทษที่ได้รับสร้างความโกรธเกรี้ยวต่อรัฐบาลโสมแดง ซึ่งขู่จะทำ “สงครามเกาหลีครั้งที่สอง” ด้วยอาวุธนิวเคลียร์
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุว่า เปียงยางเฝ้าจับตาดูการซ้อมรบระหว่างวอชิงตันกับโซลอย่างใกล้ชิด และจะ “ใช้มาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างรุนแรง หากเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯถูกส่งขึ้นไปเหนือคาบสมุทรเกาหลีอีก”
จอ์ร์จ ลิตเติล โฆษกเพนตากอน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (18) ว่า เครื่องบิน บี-52 ลำหนึ่งเดินทางจากฐานทัพอากาศแอนเดอร์สันบนเกาะกวม และเข้าร่วมภารกิจฝึกบินเหนือเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา
ด้านสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้มีรายงานว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯก็ได้บินเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้อีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อวานนี้ (19)
แม้สหรัฐฯ จะเคยส่ง บี-52 เข้าร่วมภารกิจฝึกซ้อมประจำปีมาแล้วหลายครั้ง แต่ ลิตเติล ชี้ว่า ครั้งนี้ เพนตากอน ต้องการเน้นย้ำเป็นพิเศษ เนื่องจากสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีไม่น่าไว้วางใจ
ภารกิจฝึกบิน บี-52 ครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์และศักยภาพของวอชิงตัน ในการที่จะปกป้องกรุงโซลจากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ
แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งเยือนกรุงโซลเมื่อวันจันทร์ (18) ยืนยันหนักแน่นว่าพร้อมจะให้การสนับสนุนทางทหารแก่โซลทุกอย่าง ตามเงื่อนไข “ระบบคุ้มกันนิวเคลียร์” (nuclear umbrella) ของสหรัฐฯ
