เอเอฟพี - ประธานาธิบดีคนใหม่ของจีน สี จิ้นผิง ปราศรัยปิดการประชุมเต็มคณะประจำปีของรัฐสภา โดยประกาศต่อสู้เพื่อ “การฟื้นฟูยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ” พร้อมยืนยันสานต่อฉันทามติของพรรคในการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อรับประกันการเติบโต ควบคู่กับการสร้างเสริมสมรรถนะเพื่อ “ชนะศึก”
ในการปราศรัยครั้งแรกในฐานะประมุขแห่งรัฐ ณ มหาศาลาประชาชนเมื่อวันอาทิตย์ (17) สี กล่าวย้ำแนวความคิดในเรื่อง “การทำให้การฟื้นฟูยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของประเทศจีนและความฝันของชาวจีน กลายเป็นความจริงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์ที่จะให้จีนมีการทหารที่แข็งแกร่งขึ้นและมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น
คำปราศรัยนาน 25 นาทีคราวนี้ เป็นการกล่าวปิดการประชุมเต็มคณะประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภาจีน) ซึ่งดำเนินมา 2 สัปดาห์ และมีการลงมติรับรองอย่างเป็นทางการให้ สี เป็นประธานาธิบดี และ หลี่ เค่อเฉียง เป็นนายกรัฐมนตรี อันเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการถ่ายโอนอำนาจจากคณะผู้นำจีนรุ่น หู จิ่นเทา - เวิน เจียเป่า สู่คณะผู้นำรุ่น สี - หลี่ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว
ทั้งสีและหลี่ ต่างยึดมั่นในฉันทามติอันยาวนานของพรรคในการปฏิรูปเศรษฐกิจที่จำเป็นต่อการรับประกันการเติบโต ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางการทหาร และการหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่อาจคุกคามอำนาจของพรรค
สี ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพที่กำลังขยายแสนยานุภาพการสู้รบ เป็นการต้นว่า การนำเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าประจำการเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา ได้เรียกร้องในคำปราศรัยคราวนี้ว่า กองทัพต้องเสริมสร้างความสามารถ เพื่อ “ชนะศึก”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันปักกิ่งมีเรื่องบาดหมางเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกกับญี่ปุ่น และกับอีกหลายประเทศจากการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันในทะเลจีนใต้ ขณะที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ตึงเครียดจากกรณีการเจาะระบบสารสนเทศซึ่งจีนถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการ
สี ยังย้ำการสืบทอดแนวทางของผู้นำคนก่อนๆ และกล่าวขอบคุณหู จิ่นเทา ที่เพิ่งลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี โดยที่หู ก็ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งคำนับต่อที่ประชุม
ทางด้านพวกนักวิเคราะห์ฝ่ายตะวันตกให้ความเห็นว่า แนวความคิดเรื่อง “การฟื้นฟูยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ” ของสีนั้น เป็นคำขวัญกว้างๆ ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นการปฏิรูปที่เฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
โจเซฟ เฉิง ผู้เชี่ยวชาญการเมืองจีนของมหาวิทยาลัยซิตี้ในฮ่องกง แสดงความเห็นว่า จากถ้อยแถลงของสี เป็นการยากที่จะคาดการณ์ว่า จะมีการปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจังในอนาคตอันใกล้
เขาบอกว่า คำแถลงของผู้นำใหม่ของจีนแสดงถึงแนวทางที่พยายามรักษาสมดุล ในการไม่ทำให้กลุ่มที่มีผลประโยชน์กับระบบเดิมๆ อย่างเหนียวแน่น ต้องรู้สึกแปลกแยก ขณะเดียวกัน ก็มุ่งการสานต่อการดำเนินการที่ได้รับความนิยมชมชื่น เป็นต้นว่า การปราบปรามคอร์รัปชัน การคัดค้านความฟุ่มเฟือย และการส่งเสริมกระแสรักชาติ
ฌอง-ปิแอร์ เซเบสตัน ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแบปติสต์ในฮ่องกง มองว่า ความคิดเห็นของสี สามารถตีความไปต่างๆ นานา เขายกตัวอย่างว่า นายทหารบางคนในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน มีวิสัยทัศน์เรื่อง “ความฝันของจีน” ในลักษณะที่ “ก้าวร้าวเป็นอย่างมาก” ขณะที่คนอื่นๆ มองว่า สิ่งที่ สี พูด คือการมุ่งฟื้นฟูยุคแห่งความยิ่งใหญ่ทางด้านวัฒนธรรม การที่จีนได้หวนกลับสู่ฐานะอันสมควรในการเมืองโลก และการกลับมามีความมั่งคั่งรุ่งเรืองอีก