xs
xsm
sm
md
lg

“สี จิ้นผิง” ขึ้นเป็นประธานาธิบดีจีน ปักกิ่งถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา (กลางภาพ คนซ้าย) สัมผัสมือกับ สี จิ้นผิง (ขวา)  ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีจีนคนใหม่ ในที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งรัฐ (รัฐสภาจีน) ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี (14มี.ค.)
เอเจนซี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐสภาจีนลงคะแนนอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดี (14 มี.ค.) เลือก สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ตามโผ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยครั้งที่ 2 ของแดนมังกร นับจากที่พรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นครองอำนาจในปี 1949

ผู้แทนเกือบ 3,000 คนของรัฐสภาจีน หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ซึ่งกำลังประชุมเต็มคณะประจำปีกันอยู่ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ลงคะแนนให้ สี เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ อย่างเกือบเป็นเอกฉันท์ โดยมีผู้คัดค้านเพียงคนเดียว และไม่ได้เข้าประชุม 3 คน นอกจากนั้นยังเลือกให้เขาเป็นประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย

สี ซึ่งปัจจุบันอายุ 59 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลางแห่งคณะกรรมการกลางพรรคไปแล้ว ในระหว่างการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ด้วยเหตุนี้การรับตำแหน่งในภาครัฐครั้งนี้ของเขาจึงเป็นเรื่องที่คาดหมายกันได้ล่วงหน้า และเท่ากับว่าบัดนี้เขามีอำนาจเต็มที่ทั้งในพรรค รัฐ และกองทัพ

ภายหลังการประกาศผลการนับคะแนน สีโค้งคำนับและสัมผัสมือกับหู จิ่นเทา ซึ่งบัดนี้กลายเป็นอดีตประธานาธิบดี และเกษียณอายุจากตำแหน่งที่มีอำนาจทางการเมืองทั้งหมด

นอกจากนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ยังเลือก หลี่ หยวนเฉา เป็นรองประธานาธิบดีคนใหม่ โดยที่มีผู้สมัครคนอื่นๆ อีก 5 คน เป็นต้นว่า หวัง หยาง อดีตเลขาธิการพรรคสาขามณฑลกวางตุ้ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้มีแนวคิดสายปฏิรูปคนสำคัญ ตลอดจน หลิว อิ๋ว์นซาน ผู้กุมงานด้านโฆษณาการของพรรค

การที่ หลี่ ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรค ได้ตำแหน่งนี้โดยเอาชนะ หลิว ที่มีฐานะในพรรคสูงกว่า นั่นคือเป็น คณะกรรมการประจำกรมการเมือง ถือได้ว่าเป็นเรื่องไม่ปกติธรรมดา โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน สำนักข่าวรอยเตอร์ได้เสนอข่าวเรื่องนี้ล่วงหน้าอย่างถูกต้อง พร้อมอ้างแหล่งข่าวที่ทราบเรื่องดีระบุว่า สี แสดงให้เห็นฐานะอันเข้มแข็งของตนเอง ด้วยการเลือก หลี่ แทนที่จะเป็น หลิว ซึ่งได้รับการผลักดันจากอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ผู้พยายามรักษาอิทธิพลของตนเรื่อยมาแม้หลังจากส่งมอบตำแหน่งหน้าที่ให้ หู จิ่นเทาแล้ว

สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐสภาจีนกำหนดจะเลือกตั้งในวันศุกร์ (15) โดยที่รองนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง คือผู้ที่ได้รับการวางตัวไว้ให้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก เวิน เจียเป่า

การที่ หู ขึ้นครองตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคและประธานาธิบดีของประเทศเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นับเป็นการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติครั้งแรกของพรรคอมมิวนิสต์จีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มักเกิดเหตุการณ์รุนแรง เป็นต้นว่า การปฏิวัติทางวัฒนธรรม และการปราบปรามผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ทอดเงาทะมึนบดบังการสืบทอดอำนาจครั้งก่อนๆ

ในส่วนของ สี ตั้งแต่ขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคปลายปีที่แล้ว เขาก็ให้ความสนใจกับเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และส่งเสริมสนับสนันความประพฤติปฏิบัติอันเคร่งครัดเข้มงวด เป็นต้นว่า การสั่งห้ามนายทหารชั้นผู้ใหญ่จัดงานเลี้ยงที่มีเครื่องดื่มมึนเมา

ประชาชนจีนจำนวนมากดูจะตั้งความหวังกันว่า สีจะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศที่ปัจจุบันผงาดขึ้นเป็นชาติเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ทว่ายังเต็มไปด้วยปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ การทุจริต และการทำลายสิ่งแวดล้อมที่คั่งค้างมาจากสมัยของหูและเวิน

มรดกตกทอดที่สีรับมา ยังรวมถึงสังคมที่มีความไว้ใจรัฐบาลน้อยลง ขณะที่เชี่ยวชาญในการใช้อินเทอร์เน็ตวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำกันมากขึ้น

ขณะเดียวกัน คณะบริหารของสียังต้องรับมือภาวะเศรษฐกิจเติบโตที่กำลังเริ่มชะลอตัว แถมยังมีงานเร่งด่วนในการจัดการกับฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัย ควบคู่ไปกับการคลี่คลายปัญหาหนี้สินจำนวนมากของพวกรัฐบาลระดับท้องถิ่น ตลอดจนยุติการมุ่งแต่ขยายเศรษฐกิจด้วยการทุ่มลงทุน

นอกจากนั้น สียังต้องรับมือกับปัญหาท่าทีก้าวร้าวยั่วยุของเกาหลีเหนือ ตลอดจนการที่ความสัมพันธ์ซึ่งจีนมีอยู่กับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังตึงเครียดมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น