เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานวานนี้(12) โดยลอนดอนขยับลง หลังโอเปกคาดหมายถึงอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตนอกกลุ่ม ส่วนวอลล์สตรีทรงตัวท่ามกลางการซื้อเบาบาง ผิดกับทองคำ ที่พุ่งชึ้นแรง เหตุเริ่มมีความเชื่อมั่นกลับคืนสู่เศรษฐกิจเยอรมนี
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 92.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 109.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดลอนดอน เป็นผลมาจากรายงานประจำเดือนด้านการตลาดของโอเปก ที่คงประมาณการณ์อุปสงค์พลังงานโลกไว้ตามเดิม อยู่ที่ 89.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ราว 8 แสนบาร์เรลต่อวัน
ทว่าข้อสังเกตก็คือโอเปกได้ปรับเพิ่มคาดหมายการเติบโตด้านกำลังผลิตในปี 2013 ของเหล่าประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาขิกของกลุ่มอีกร้อยละ 11 หรือเพิ่มขึ้นอีกราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยส่วนใหญ่มาจากชาติในแถบอเมริกาเหนือ นั่นจึงก่อความกังวลว่าอุปทานอาจล้นตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(12) ทรงตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ทว่าดาวโจนส์ ยังเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2.77 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,450.06 จุด แนสแดค ลดลง 10.55 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,242.32 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.74 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,552.48
"ดาวโจนส์ ยังเดินหน้าทุบสถิติต่อไป แม้จะปรับขึ้นแค่เล็กน้อย ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฉุดดัชนีตัวอื่นๆปิดในแดนลบ" บริษัทที่ปรึกษา ชาร์ลส์ ชวาบ แอนด์ โค ระบุ
ส่วนราคาทองคำวานนี้(12) พุ่งขึ้นอย่างแรง หลังธนาคารกลางเยอนมนีระบุว่าเริ่มมีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจบางส่วนฟื้นตัวขึ้นมา หลังจากที่สูญเสียไปอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 13.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,591.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์