เอเอฟพี - พายุหิมะซึ่งพัดถล่มตอนเหนือของฝรั่งเศสส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง นำความเดือดร้อนสู่ประชาชนกว่า 68,000 ครัวเรือน ขณะที่ผู้ใช้รถหลายร้อยคนต้องติดอยู่ในยานพาหนะเพราะไม่อาจขับฝ่าสภาพอากาศที่เลวร้ายไปได้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสำนักงานบริการสภาพอากาศ รายงานวันนี้ (12)
ที่เมืองลีลล์ (Lille) เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ 3 คันลื่นไถลชนกันบนถรรมอเตอร์เวย์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บถึง 14 คน รวมถึงพนักงานดับเพลิง 6 ราย
แคว้นทางตะวันตกเฉียงเหนือและตอนเหนือของฝรั่งเศสถูกประกาศเตือนภัยพายุหิมะระดับสีส้ม โดยสำนักงาน เมเตออร์ ฟรานซ์ ระบุว่า “เป็นเรื่องผิดปกติสำหรับฤดูนี้ เนื่องจากหิมะที่ตกจะมีปริมาณมากและตกอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ นักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า สภาพอากาศน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับในวันพรุ่งนี้ (13)
ตลอดคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (11) รถยนต์เกือบ 500 คันต้องติดค้างอยู่บนถนนใกล้กับเมืองเชร์บูร์กซึ่งหิมะตกราว 60 เซนติเมตร ขณะที่กระแสลมมีความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บ้านเรือนกว่า 68,000 หลังในแคว้นนอร์มองดีและเบรอตาญประสบปัญหาไฟฟ้าดับชั่วคราว ทว่าผู้บริหารโรงไฟฟ้า ERDF แถลงล่าสุดว่า จำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนลดลงเหลือเพียง 500 หลังคาเรือนแล้วในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
องค์กรการบินพลเรือนฝรั่งเศสขอให้สายการบินต่างๆ ยกเลิกเที่ยวบินร้อยละ 25 จากสนามบินรัวซีย์ (Roissy) และออร์ลีย์ ในกรุงปารีสเนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรงในช่วง 1-2 วันนี้ ขณะที่รถไฟความเร็วสูง TGV และรถไฟระหว่างกรุงปารีสกับเมืองเชร์บูร์ก ก็ประสบปัญหาเดินทางล่าช้าเช่นกัน