เอเจนซีส์ - หัวหน้าแก๊งฆ่าข่มขืนนักศึกษาบนรถเมล์ในกรุงนิวเดลีเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เสียชีวิตในห้องขังเมื่อตอนเช้ามืดวันจันทร์ (11 มี.ค.) โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอตนเอง ทว่าพ่อแม่และทนายของจำเลยผู้นี้ไม่เชื่อและเห็นว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม ขณะที่พ่อแม่ของเหยื่อก็ไม่พอใจที่ตำรวจปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทั้งๆ ที่ผู้ตายเป็นผู้ต้องหาสำคัญ
สุนิล คุปตะ เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของเรือนจำติฮาร์ที่มีการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดของอินเดีย แถลงว่า ราม สิงห์ ผู้ต้องหาคนสำคัญที่สุดในคดีฆ่าข่มขืนนักศึกษาหญิงอันสะเทือนขวัญเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้แขวนคอตายในห้องขังเดี่ยวในช่วงเช้ามืด โดยใช้เสื้อผ้าของตัวเองผูกเป็นบ่วงคล้องคอ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นได้เริ่มต้นสืบสวนว่า เหตุการณ์นี้มีสาเหตุมาจากการรักษาความปลอดภัยหละหลวมหรือไม่
ทว่า พ่อแม่ของสิงห์ยืนยันว่าไม่มีทางที่ลูกชายจะฆ่าตัวตาย โดยที่ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย
มันจี ลาล สิงห์ พ่อของผู้ต้องขังรายนี้สำทับว่า ลูกชายคงไม่สามารถนำเสื้อผ้ามาผูกเงื่อนเป็นบ่วงรัดคอได้ เนื่องจากมือข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อหลายปีก่อน ทั้งยังบอกอีกว่า สิงห์ถูกขังร่วมกับนักโทษอีก 2 คน ไม่ได้ถูกขังเดี่ยวอย่างที่เจ้าหน้าที่เรือนจำกล่าวอ้าง
สิงห์ยังเล่าให้พ่อของเขาฟังว่าตกอยู่ในอันตราย และถูกนักโทษคนอื่นๆ ข่มขืน
ขณะที่ วี.เจ. อนันต์ ทนายของสิงห์กล่าวคล้ายๆ กันว่า ลูกความของตนไม่ได้ถูกขังเดี่ยวและเคยร้องเรียนอยู่ 2-3 ครั้งว่าถูกพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของเรือนจำทำทารุณ ทว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ตัดสินใจจบชีวิตตนเอง โดยในระหว่างที่เขาพบลูกความผู้นี้ในศาลเมื่อวันศุกร์ (8) สิงห์ยังคงพูดคุยเป็นปกติไม่มีอาการเครียดใดๆ รวมทั้งไม่เห็นมีจดหมายลาตายทิ้งเอาไว้เลย ดังนั้นจึงจะต้องไม่ตัดประเด็นการเล่นสกปรกออกไป และตำรวจควรเปิดการสืบสวนสอบสวนในฐานะที่เป็นคดีฆาตกรรม
Doubts over Delhi rape suspect's death in custody by euronews-en
สิงห์ซึ่งโดยอาชีพเป็นคนขับรถโดยสารที่ปกติแล้วใช้รับส่งนักเรียน ถูกตำรวจระบุว่า เป็นหัวหน้าของแก๊งผู้ต้องหารวม 6 คน ในจำนวนนี้คนหนึ่งเป็นน้องชายของเขาเอง ได้ดื่มสุรากันอย่างหนักในคืนวันที่ 16 ธันวาคม อันเป็นคืนเกิดเหตุ จากนั้นจึงนำรถออกไปขับเที่ยวเพื่อหาเหยื่อมาข่มขืน และไปพบเหยื่อนักศึกษาสาวพร้อมเพื่อนชายที่กำลังรอรถประจำทางเพื่อกลับบ้านภายหลังไปชมภาพยนตร์มา สิงห์และเพื่อนหลอกล่อเหยื่อทั้งสองขึ้นรถ แล้วจัดการทำร้ายคนทั้งสอง
ตามการสอบสวนของตำรวจและการตรวจร่างกายของเหยื่อ พวกเขาไม่เพียงทำการข่มขืนนักศึกษาหญิงผู้นี้เท่านั้น หากยังทำร้ายเธอด้วยท่อนเหล็ก ทำให้เกิดการบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง จากนั้นจึงโยนเหยื่อทั้งสองลงมา ในขณะที่รถกำลังแล่นอยู่
นักศึกษาหญิงซึ่งเป็นนักศึกษาทางด้านจิตวิทยาวัย 23 ปีผู้นี้ ถูกนำเข้าห้องไอซียูในโรงพยาบาลที่นิวเดลีอยู่หลายวัน จากนั้นจึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญเรื่องบาดแผลภายในที่สิงคโปร์ ทว่าในที่สุดเธอก็เสียชีวิตที่นั่นในวันที่ 29 ธันวาคม
สำหรับเพื่อนชายของนักศึกษาหญิงผู้นี้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์วัย 28 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่รอดชีวิตมาได้
สิงห์และพวกพ้องในแก๊ง ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ข่มขืน หน่วงเหนี่ยว และจากพฤติการณ์อันเหี้ยมโหดก็ได้ปลุกกระแสการต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงในอินเดีย ตลอดจนการรณรงค์ให้เพิ่มมาตรการลงโทษผู้ทำความผิดข่มขืน
หากถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดจริง สิงห์และผู้ต้องหาอื่นๆ อีก 4 คนในแก๊ง จะถูกลงโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต โดยที่การพิจารณาคดีก็อยู่ในกระบวนการเร่งรัดเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชนทั้งในอินเดียและทั่วโลก สำหรับผู้ต้องหาอีกคนที่เหลือนั้นเนื่องจากมีอายุ 17 ปี จึงต้องถูกดำเนินคดีในศาลเยาวชน และหากมีความผิด อาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุดเพียง 3 ปี
ในการพิจารณาคดีในศาล จำเลยทั้งหมดต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา ถึงแม้ตำรวจมีหลักฐานสำคัญต่างๆ เป็นต้นว่า วันรุ่งขึ้นหลังคืนเกิดเหตุ ตำรวจพบสิงห์นั่งอยู่ในรถนักเรียนที่เต็มไปด้วยคราบเลือด สวมเสื้อที่เปรอะเลือด ซึ่งจากการตรวจดีเอ็นเอพบว่า เป็นเลือดของนักศึกษาสาว
ภายหลังจากสิงห์เสียชีวิตไปแล้วในห้องขัง พ่อของสิงห์เล่าว่า ลูกชายได้เคยบอกกับเขาว่า ละอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 16 ธันวาคม และจะยอมรับโทษทัณฑ์ใดๆ ก็ตามตามที่ศาลพิพากษา
สำหรับทางด้านพ่อของเหยื่อข่มขืนได้แสดงความไม่พอใจที่ตำรวจปล่อยปละละเลยเช่นนี้ ทั้งที่สิงห์เป็นผู้ต้องหาสำคัญ ส่วนผู้เป็นแม่บอกว่า ช็อกที่ได้ยินข่าวนี้ เนื่องจากต้องการให้ลูกสาวได้รับความยุติธรรม
อย่างไรก็ดี นายตำรวจอาวุโสที่ทำคดีนี้ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อคนหนึ่งยืนยันว่า การตายของสิงห์จะไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีในศาลแต่อย่างใด