รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประชาชนในหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ของสหราชอาณาจักร ต่างเดินทางไปใช้สิทธิลงประชามติในวันอาทิตย์ (10) เกี่ยวกับสถานะทางการเมืองของตน ขณะที่รัฐบาลอาร์เจนตินาซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะแห่งนี้มายาวนานออกโรงปฏิเสธการจัดลงประชามติครั้งนี้ โดยระบุเป็นความพยายามของอังกฤษ ในการสร้างความชอบธรรมของตัวเองเหนือฟอล์กแลนด์เท่านั้น
ความตึงเครียดระหว่างสหราชอาณาจักรและอาร์เจนตินาเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ หรือที่อาร์เจนตินาเรียกว่า “อิสลาส มัลบีนัส” ยังคงดำเนินต่อไป แม้สงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ที่กินเวลานาน 74 วัน ระหว่างทั้ง 2 ประเทศจะยุติลงมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1982 ด้วยการยอมจำนนของฝ่ายอาร์เจนตินาก็ตาม
ล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลอาร์เจนตินา ภายใต้การนำของประธานาธิบดีหญิง กริสตินา เฟร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ ออกคำแถลงที่กรุงบวยโนสไอเรส (บัวโนสไอเรส) โดยระบุจะไม่ขอยอมรับผลการลงประชามติของประชาชนบนหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ที่มีหัวข้อสำคัญ คือ การตัดสินใจของประชากรราว 2,800 คน ที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้ ว่าต้องการให้หมู่เกาะฟอลก์แลนด์เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไปหรือไม่
คำแถลงของรัฐบาลอาร์เจนตินาล่าสุดยังคงเน้นย้ำว่าหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ และหมู่เกาะใกล้เคียงอย่างหมู่เกาะจอร์เจียใต้ และหมู่เกาะแซนด์วิชใต้ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งของอาร์เจนตินาไปทางตะวันออก ถือเป็นเขตอธิปไตยของรัฐบาลบวยโนสไอเรส ขณะที่สหราชอาณาจักรซึ่งมีที่ตั้งอยู่ห่างออกไปกว่า 12,700 กิโลเมตรนั้นมีสถานะเป็นเพียง “ผู้รุกราน” เท่านั้น
เป็นที่คาดกันว่า ประชาชนบนหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ จะออกเสียงเห็นชอบแบบขาดลอยกับการเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป ขณะที่ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศพร้อมยอมรับการตัดสินใจของชาวเกาะฟอล์กแลนด์เกี่ยวกับอนาคตของดินแดนดังกล่าว
ทั้งนี้ อาร์เจนตินาได้อ้างสิทธิ์ของตนเหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์มายาวนานตั้งแต่ ปี ค.ศ.1833 โดยระบุหมู่เกาะแห่งนี้เป็นดินแดนที่ตนได้รับสืบทอดมาจากสเปน อดีตประเทศเมืองแม่ แต่อังกฤษกลับเข้ามารุกรานและขับไล่ประชากรที่มีเชื้อสายอาร์เจนไตน์ออกจากเกาะจนหมดสิ้น และนำประชากรเชื้อสายอังกฤษเข้ามาตั้งรกรากแทน