ยาฮูนิวส์ - เจ้าหน้าที่สั่งอพยพนักเล่นน้ำและปิดชายหาดต่างๆ ในแถบตอนใต้ของมลรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ หลับพบฉลามกว่าหมื่นตัวกำลังว่ายลัดเลาะไปตามชายฝั่ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญออกมากลบกระแสความกังวล ชี้เป็นเพียงแค่การอพยพตามฤดูกาล
สำนักข่าวดับเบิลยูพีทีวีรายงานว่าฉลามราวๆ 15,000 ตัว ใช้กระแสน้ำของแอตแลนติกมุ่งหน้าไปทางเหนือ ส่วนหนึ่งของคืนสู่ถิ่นฐานตามฤดูกาล หลังจากอพยพลงใต้ในช่วงฤดูหนาว
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้รายงานว่า ฉลามส่วนใหญ่ที่พบเห็นคือฉลามหูดำ ซึ่งชอบกระโจนขึ้นจากน้ำและหมุนตัวกลางอากาศระหว่างกินเหยื่อ โดยมันมีนิสัยไม่ดุร้ายเมื่อเทียบกับฉลามชนิดอื่นๆ และบ่อยครั้งที่พบเห็นหากินใกล้ชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าในนั้นยังพบบฉลามหัวค้อน ฉลามเสือ ฉลามเลมอน และฉลามหัวบาตรรวมอยู่ด้วย
คร็ก พอลล็อก หัวหน้าไลฟ์การ์ดที่หาดมิดเวสต์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ปาล์มบีชเดลีนิวส์ว่า เขาเห็นฉลามครั้งแรกเมื่อวันอังคาร (5) ซึ่งพวกมันมีจำนวนเยอะมาก มองเห็นแน่นไปหมด พวกมันคลุ้มคลั่ง ไล่ล่าเหยื่อจนมาถึงชายฝั่ง ถึงขั้นเรียกว่าเกือบจะขึ้นมาบนหาดเลยก็ว่าได้
ส่วน ดอกเตอร์ สตีเฟน คาจิอูระ จากภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยฟลอริดา แอตแลนติก ซึ่งทำงานวิจัยเกี่ยวกับการอพยพของฉลาม บอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่าระหว่างช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ จะมีฉลามหลายหมื่นตัวว่ายเฉียดใกล้ชายฝั่งแห่งนี้ และเฉลี่ยแล้วตัวหนึ่งๆ จะอยู่ห่างจากนักว่ายน้ำเพียงแค่ 60 ฟุตเท่านั้น
“มีฉลามนับหมื่นๆ ตัวว่ายอยู่แถวชายฝั่งแห่งนี้ ยังแต่ไม่มีรายงานคนถูกกัดในน่านน้ำต่างๆ แถบปาล์มบีช เคาน์ตี” เขากล่าว “ข้อมูลของเราชี้ว่าฤดูกาลอพยพเป็นฝูงอยู่ระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ แต่บางทีปีนี้อาจล่าช้าไปหน่อย คงอาจเป็นเพราะอุณหภูมิอากาศและน้ำที่สูงขึ้น”
ทั้งนี้ ปาล์มบีช เคาน์ตี นับเป็นหนึ่งในแถบชายฝั่งที่ติดอันดับพื้นที่เสี่ยงถูกฉลามเล่นงานมากที่สุดแห่งหนึ่ง ทว่าข้อเท็จจริงคือกลับมีจำนวนผู้ถูกฉลามกัดน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งในฤดูอพยพของเหล่าฉลามก็ตาม