เอเอฟพี - ทางการมาเลเซียแถลงในวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) ว่า การปะทะกันในพื้นที่รัฐซาบาห์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว ระหว่างพวกถืออาวุธชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นผู้บุกรุก กับกองกำลังทหารตำรวจแดนเสือเหลืองซึ่งพยายามกวาดล้างขับไล่คนเหล่านี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 60 คนแล้ว พร้อมกันนั้นกัวลาลัมเปอร์ก็ปฏิเสธไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของผู้อ้างตนเป็นสุลต่านแห่งซูลู ซึ่งเป็นผู้นำของผู้บุกรุกจากแดนตากาล็อก ขณะที่เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ บัน คีมูน ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย อิสมาอิล โอมาร์ แถลงว่า มีพวกลูกน้องจำนวน 32 คนของ จามารุล กิราม ที่ 3 ซึ่งอ้างตนเป็นทายาทผู้ครองรัฐสุลต่านแห่งซูลู ถูกสังหารในระหว่างการปะทะสู้รบกับกองกำลังความมั่นคงของแดนเสือเหลืองรวม 2 ครั้งนับตั้งแต่วันพุธ (6) เป็นต้นมา ในพื้นที่ใกล้ๆ บริเวณซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอยู่เป็นเวลานาน 3 สัปดาห์
จากตัวเลขล่าสุดนี้ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 60 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นพวกผู้บุกรุก 52 คน ขณะที่ตำรวจมาเลเซียถูกสังหารไป 8 คนจากการปะทะกัน 2 ครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เวลานี้กำลังทหารและตำรวจมาเลเซียยังคงกำลังไล่ล่ากวาดล้างพวกผู้ติดอาวุธอิสลามิสต์เหล่านี้อยู่ และ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของแดนเสือเหลือง ซึ่งเดินทางไปยังรัฐซาบาห์ ได้แถลงปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกิราม ผู้อ้างตนเป็นสุลต่านซูลู
ก่อนหน้านี้ในคืนวันพุธ บัน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่ง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ยุติความรุนแรงและหันมาเจรจากันเพื่อให้ได้ซึ่งหนทางแก้ปัญหาอย่างสันติ
จากนั้นโฆษกของกิรามก็แถลงในกรุงมะนิลาว่า ทางสุลต่านแห่งซูลีผู้นี้ขอสนองตอบเสียงเรียกร้องของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ด้วยการประกาศหยุดยิงแต่ฝ่ายเดียวตั้งแต่ตอนเที่ยงวันพฤหัสบดี (7) เป็นต้นไป
คิราม นั้นอ้างว่าเขาเป็นทายาทของรัฐสุลต่านแห่งซูลู ซึ่งในอดีตเคยปกครองเกาะต่างๆ ในบริเวณนี้ ที่ปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ตลอดจนรัฐซาบาห์ของมาเลเซีย ขณะที่โฆษกของเขากล่าวในวันพฤหัสบดีว่า พวกผู้สนับสนุนสุลต่านซูลูที่ใช้เรือเล็กยกกำลังเข้าไปในซาบาห์ตั้งแต่แรกเมื่อราว 3 สัปดาห์ก่อนนั้น มีจำนวน 235 คน ในนี้เป็นผู้หญิง 8 คน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียระบุว่าไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของฝ่ายผู้บุกรุก เขาบอกด้วยว่าได้แจ้งให้ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ ทราบโดยทางโทรศัพท์แล้วว่า ชาวตากาล็อกถืออาวุธเหล่านี้จะต้องยอมวางอาวุธในทันที
“ผมเรียนให้ประธานาธิบดีอากีโนทราบแล้วว่า คนเหล่านี้ต้องวางอาวุธของพวกเขาในทันที” นาจิบแถลงต่อผู้สื่อข่าวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ บริเวณที่ทหารตำรวจมาเลเซียกำลังไล่ล่าค้นหาผู้บุกรุกจากฟิลิปปินส์
ชาวมาเลเซียต่างโกรธแค้นการบุกรุกของกลุ่มถืออาวุธอิสมามิสต์จากฟิลิปปินส์ ซึ่งทำให้สถานการณ์ในซาบาห์เต็มไปด้วยความตึงเครียด ประชาชนในบางเมืองทิ้งบ้านหลังจากตำรวจเผยว่าพบผู้บุกรุกซึ่งถืออาวุธในหลายพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง ทำให้เกิดความกังวลกันว่าคนเหล่านี้อาจแทรกซึมเข้ามาเป็นบริเวณกว้างขวางกว่าที่เคยคาดกันไว้
หลังจากเผชิญหน้ากันอยู่ราว 3 สัปดาห์ โดยเฉพาะที่บริเวณหมู่บ้านที่มีชื่อว่าตันดูโอ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีการปะทะกันระหว่างผู้บุกรุกเหล่านี้กับกองกำลังความมั่นคงของมาเลเซียรวม 2 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งเกิดขึ้นที่แถวๆ หมู่บ้านตันดูโอ และอีกครั้งหนึ่งเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ถูกซุ่มตีที่เมืองแซมพอร์นา ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร การต่อสู้เหล่านี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน โดยเป็นนักรบ 20 คน และตำรวจมาเลเซีย 8 คน และทางการมาเลเซียตัดสินใจส่งเครื่องบินขับไล่และกองทหารภาคพื้นดินเข้าไปปราบปรามกวาดล้างตั้งแต่วันอังคาร (5) เป็นต้นมา
ในตอนค่ำวันพุธ (6) ทางการมาเลเซียระบุว่า ได้พบศพตำรวจ 6 นายที่เสียชีวิตจากการถูกซุ่มโจมตีในเมืองเซมพอร์นา โดยศพเหล่านั้นถูกตัดแขนตัดขา อย่างไรก็ดี ตำรวจมาเลเซียสามารถตามสังหารนักรบ 6 คนที่ซุ่มโจมตีดังกล่าวได้
การบุกรุกของนักรบอิสลามิสต์สะท้อนสถานการณ์ละเอียดอ่อนระหว่างสองชาติเพื่อนบ้าน โดยก่อนหน้านี้มะนิลาเรียกร้องให้กัวลาลัมเปอร์อดกลั้น ทว่า ไม่เป็นผล
ขณะเดียวกัน แอนิฟาห์ อามัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย แถลงเมื่อคืนวันพุธว่า อาจขอให้ฟิลิปปินส์ส่งตัวคิรามมาดำเนินคดีในแดนเสือเหลือง ทว่า มะนิลาปฏิเสธทันทีโดยอ้างว่าไม่มีสนธิสัญญาระหว่างกันในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
