เอเอฟพี - บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ เชลล์ สั่งระงับการสำรวจแหล่งน้ำมันบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกในรัฐอะแลสกาไปจนถึงสิ้นปี 2013 หลังแท่นขุดเจาะเก่าแก่ของบริษัทเผชิญปัญหายุ่งยากหลายประการ
เชลล์จะระงับการสำรวจแหล่งน้ำมันบริเวณทะเลโบฟอร์ตและทะเลชุกชี บนชายฝั่งตอนเหนือของรัฐอะแลสกา ไปจนถึงปี 2014 “เพื่อเตรียมอุปกรณ์และแผนการสำหรับเริ่มกิจกรรมใหม่อีกครั้งในภายหลัง”
“โครงการสำรวจแหล่งน้ำมันในอะแลสกาคืบหน้าไปมากแล้ว แต่นี่เป็นโครงการระยะยาวซึ่งเราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และคำนึงความปลอดภัยเป็นหลัก” มาร์วิน โอดัม ประธานบริษัทเชลล์ ระบุในถ้อยแถลง
“การยุติกิจกรรมสำรวจตลอดปี 2013 จะทำให้เราได้มีเวลาตระเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และบุคลากร หลังจากที่ผ่านฤดูกาลขุดเจาะในปี 2012 มา”
แท่นขุดเจาะ โนเบิล ดิสคัฟเวอรี (Noble Discovery) และ คุลลัก (Kulluk) ของเชลล์ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเคยประสบปัญหามาแล้วหลายครั้ง
เดือนมกราคมที่ผ่านมา แท่นขุดเจาะคุลลักซึ่งอยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายเกิดหลุดออกจากเรือลากจูง และถูกคลื่นซัดมาเกยชายฝั่ง ส่วน โนเบิล ดิสคัพเวอรี ก็เคยถูกหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ชี้ถึงข้อบกพร่องด้านการปฏิบัติงานและความปลอดภัยหลายกรณี
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เชลล์ต้องส่งแท่นขุดเจาะทั้งสองไปซ่อมบำรุงในเอเชีย
กลุ่ม กรีซพีซ ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม มีแถลงการณ์โจมตีอย่างรุนแรงที่ เชลล์ ยังใช้แท่นขุดเจาะซึ่งมีอายุการใช้งานหลายสิบปีในน่านน้ำแถบอาร์กติก
“โนเบิล ดิสคัฟเวอรี และคุลลัก ล้วนมีอายุเก่าแก่และสนิมจับเกรอะ ไม่ได้อยู่ในสภาพทันสมัยเหมือนอย่างที่เชลล์เอ่ยอ้าง” กรีซพีซแถลงเมื่อเดือนที่แล้ว