เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในสหรัฐฯโดยสถาบันวิจัย “พีว” ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ที่มีการเผยแพร่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับแนวทางในการตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งผลสำรวจพบว่ามากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกัน มีความเห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯควรตัดลดงบประมาณในส่วนของการให้ความช่วยเหลือต่อต่างประเทศลง โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯซึ่งกำลังประสบภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ และมีอัตราว่างงานพุ่งสูง ต้องหันมา “ช่วยตัวเอง” ก่อน
ขณะที่การตัดลดงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และการจำกัดเงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน ถือเป็นมาตรการตัดลดการใช้จ่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันกว่า 1 ใน 3
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพบว่า ราว 1 ใน 4 หรือเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่า ควรตัดลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ “เพนตากอน” ลง เพื่อนำเงินไปจัดสรรใช้ในส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และมีความสำคัญต่อการแก้ “ปัญหาปากท้อง” ของคนอเมริกันมากกว่า
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจซึ่งทำขึ้นระหว่างวันที่ 13-18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า ในบรรดากลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,504 คนนั้น ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย หากจะมีการตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐในส่วนของการประกันสุขภาพ, โครงการด้านพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐาน, การค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และการต่อสู้กับปัญหาอาชญากรรม
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพบว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างกลับต้องการให้มีการ “เพิ่มงบประมาณ” ด้านการศึกษาให้สูงขึ้นกว่าระดับปัจจุบัน ขณะที่ 53 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้เพิ่มงบประมาณสนับสนุนสวัสดิการต่างๆ แก่บรรดาทหารผ่านศึกให้มากขึ้น
