เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- กลุ่มกบฏซีเรียอ้างสามารถบุกยึดสนามบินทหาร “อัล ญาร์ราห์” ในจังหวัดอะเลปโป ทางตอนเหนือของประเทศเอาไว้ได้เมื่อวันอังคาร (12) พร้อมเผยว่า กองกำลังของฝ่ายตนสามารถยึดเครื่องบินรบหลายสิบลำของฝ่ายรัฐบาลที่ยังสามารถใช้การได้ นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีนับตั้งแต่เกิดการสู้รบในซีเรีย
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากนักรบของกองทัพซีเรียอิสระ (เอฟเอสเอ) ระบุ สามารถบุกยึดสนามบินทหารดังกล่าวในจังหวัดอะเลปโป ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองอะเลปโป เมืองใหญ่ที่สุดของซีเรียไว้ได้ โดยหากข้อมูลของฝ่ายกบฏได้รับการยืนยันจะถือเป็นความสูญเสียสำคัญหนที่ 2 ของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรีย ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่รัฐบาลอัสซาดเพิ่งสูญเสียการควบคุมเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำใหญ่ที่สุดของประเทศ ณ แม่น้ำยูเฟรตีส ช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดรักกา ไปให้กับฝ่ายกบฏเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า
การออกมาเปิดเผยของนักรบเอฟเอสเอล่าสุด สอดคล้องกับข้อมูลของกลุ่ม “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส” ในอังกฤษ ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านระบอบการปกครองของอัสซาดเช่นกัน ที่ระบุว่า กองทัพอากาศซีเรียพยายามทิ้งระเบิดทำลายสนามบินทหาร “อัล ญาร์ราห์” หวังสกัดกั้นมิให้ฝ่ายกบฏเข้าถึงเครื่องบินรบของรัฐบาลได้ แต่ถึงกระนั้นฝ่ายกบฏก็สามารถยึดเครื่องบินรบที่ยังสามารถใช้การได้หลายสิบลำ โดยส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินรบในยุคสหภาพโซเวียตอย่างเครื่อง มิก-17 รวมถึงเครื่องบินขับไล่แบบ “Sukhoi L-39” ขณะเดียวกันการรบครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในจังหวัดอะเลปโป ยังส่งผลให้มีทหารของฝ่ายรัฐบาลมากกว่า 40 นายถูกจับเป็นเชลย
ด้านนาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) วัย 71 ปี จากแอฟริกาใต้ ออกมาเปิดเผยว่า ความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 23 เดือนในซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 70,000 รายแล้ว หลังจากเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงในซีเรียเพิ่งทะลุหลัก 60,000 คนไปหมาดๆ