เอเจนซีส์ - นครลอสแองเจลิสตั้งค่าหัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1 ล้านเหรียญ สำหรับผู้ให้เบาะแสอดีตตำรวจที่ “ก่อการร้ายภายในประเทศ” โดยเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าตำรวจและครอบครัวรวม 3 ศพ เพื่อล้างแค้นกรณีถูกปลดออกจากราชการเมื่อ 5 ปีก่อน
ชาร์ลี เบ็ค ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจนครลอสแองเจลีส (แอลเอพีดี) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า รางวัลดังกล่าวที่ประชาชน สหภาพตำรวจ ภาคธุรกิจ และหน่วยราชการในนครและเคาน์ตี้ต่างๆ ร่วมลงขันนั้น ถือเป็นรางวัลนำจับที่มีมูลค่าสูงที่สุดในการสืบสวนคดีอาชญากรรมในแถบแคลิฟอร์เนียใต้
การตั้งรางวัลนำจับคราวนี้มีขึ้นขณะที่พวกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วภูมิภาคดังกล่าวรีบเร่งควานหาตัว คริสโตเฟอร์ ดอร์เนอร์ วัย 33 ปี อดีตตำรวจแอลเอพีดีและทหารกองหนุนกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยการตามล่าตัวดังกล่าวถือเป็นการปฏิบัติการติดตามค้นหาซึ่งครอบคลุมกว้างขวางที่สุดในแอลเอ และดำเนินต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 4 แล้ว
เบ็คยังระบุว่า การก่อความรุนแรงที่มีแรงจูงใจเพื่อการแก้แค้นของดอร์เนอร์ ถือเป็น “การก่อการร้ายภายในประเทศ” และว่าการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้า แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด เพียงแต่กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่า ถ้าหากดอร์เนอร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะเกาะติดข่าวคราวการตามล่าตัวเขาเองอย่างใกล้ชิด
เช่นเดียวกัน แอนโตนิโอ วิลลาไรโกซา นายกเทศมนตรีนครแอลเอ ซึ่งแสดงความเชื่อมั่นว่า จะสามารถนำตัวฆาตกรรายนี้มาดำเนินคดีได้แน่นอน
ขณะเดียวกัน แอลเอพีดีได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยพิธีแจกรางวัลแกรมมีที่จัดขึ้นที่สเตเปิลส์ เซ็นเตอร์ กลางเมืองแอลเอในวันอาทิตย์ รวมถึงในพิธีศพตำรวจที่ถูกดอร์เนอร์ยิงเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสฯ (7) ที่จะจัดขึ้นกลางสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ การค้นหาดอร์เนอร์พุ่งเป้าที่เทือกเขาซานเบอร์นาดิโน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอลเอที่ปกคลุมด้วยหิมะ เนื่องจากพบรถปิ๊กอัพของเขาถูกเผาทิ้งอยู่ในชุมชนรีสอร์ตสกี บิ๊กแบร์เลคเมื่อวันพฤหัสฯ (7)
ตำรวจทั่วภูมิภาคยังตระเวณไปยังสถานที่หลายแห่งตามที่ได้รับแจ้ง หนึ่งในเบาะแสที่ได้รับล่าสุดคือ โทรศัพท์จากพลเมืองดี 2 คนที่บอกว่าพบคนที่มีลักษณะคล้ายดอร์เนอร์ในห้างจำหน่ายอุปกรณ์ช่างในย่านซานเฟอร์นันโดของแอลเอ แต่เมื่ออพยพคนออกและทำการตรวจค้น กลับไม่พบเบาะแสใดๆ
ตำรวจเผยว่า ครั้งล่าสุดที่ยืนยันได้ว่าดอร์เนอร์เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่คือเมื่อเช้าวันพฤหัสฯ ในสองเมืองของริเวอร์ไซด์เคาน์ตี ทางตะวันออกของแอลเอ โดยดอร์เนอร์ถูกกล่าวหาว่ายิงตอบโต้กับตำรวจ 2 นาย และภายหลังจากนั้นยังได้ซุ่มโจมตีตำรวจอีก 2 นาย ทำให้ตำรวจนายหนึ่งเสียชีวิต และอีกคนได้รับบาดเจ็บ
คำแถลงที่โพสต์บนหน้าเฟซบุ๊กของดอร์เนอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า เขาถูกปลดจากแอลเอพีดีอย่างไม่เป็นธรรมในเดือนกันยายน 2008 และประกาศแก้แค้นด้วยสงครามนอกรูปแบบต่อตำรวจแอลเอพีดีไม่ว่าจะอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ก็ตาม
ดอร์เนอร์ผู้เป็นอดีตนายทหารยศเรือโท ยังเป็นผู้ต้องสงสัยสังหารคีธ ลอว์เรนซ์ วัย 27 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิทยาเขตการศึกษาแห่งหนึ่ง พร้อมคู่หมั้น โมนิกา ควอน วัย 28 ปี บุตรสาวของแรนดี้ ควอน นายตำรวจปลดเกษียณที่ดอร์เนอร์กล่าวหาว่า เป็นผู้สั่งปลดตนเอง โดยเมื่อวันอาทิตย์ (3) ตำรวจพบศพคนทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิตในรถที่จอดอยู่บนอาคารจอดรถในเมืองเออร์ไวน์ ทางใต้ของแอลเอ
ก่อนหน้านั้น 2 วัน ดอร์เนอร์ยุติการรับราชการทหาร ทว่า กองทัพเรือไม่ได้เปิดเผยสาเหตุในการปลดประจำการแต่อย่างใด
แรนดี้ ควอน นั้นเป็นตัวแทนของดอร์เนอร์ระหว่างการดำเนินการทางวินัยที่นำไปสู่การปลดเขาออกจากแอลเอพีดี หลังจากผลการสอบสวนพบว่า ดอร์เนอร์ให้ข้อมูลเท็จเพื่อกล่าวหานายตำรวจที่มียศสูงกว่าว่า ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับคนจรจัด
ต่อกรณีนี้ เบ็คประกาศเมื่อวันเสาร์ว่าจะรื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่ “เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ตำรวจโปร่งใสและเป็นธรรม”
แอลเอพีดียังเปิดการสอบสวนกรณีที่ตำรวจนายหนึ่งยิงผู้หญิงสองคนบนรถปิ๊กอัพที่เหมือนกับรถของดอร์เนอร์ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันพฤหัสฯ
นอกจากนี้ แอลเอพีดีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานหลายแห่ง รวมถึงสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ยังให้การอารักขาพิเศษสำหรับตำรวจแอลเอกว่า 50 นายและครอบครัวที่เชื่อว่า เป็นเป้าการล้างแค้นของดอร์เนอร์
ล่าสุดยังมีรายงานว่า การตามล่าดอร์เนอร์ที่ตำรวจระบุว่าเป็น “บุคคลที่พกพาอาวุธและอันตรายอย่างยิ่ง” ยังขยายเข้าสู่มลรัฐแอริโซนาและมลรัฐเนวาดาที่อยู่ติดกันด้วย
