นักวิทย์เผยกิจกรรมมนุษย์ต้นเหตุ “ปลาทะเล” ตัวเล็กลง-ถูกล่ามากขึ้น

เอเอฟพี - สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอันเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์มีส่วนทำให้ปลาเศรษฐกิจบางสายพันธุ์มีขนาดเล็กลงโดยเฉลี่ย และตกเป็นเหยื่อสัตว์ผู้ล่ามากขึ้น ซึ่งหมายความว่าประชากรสัตว์น้ำที่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์อาจอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงยิ่งกว่าที่เราคิด นักวิทยาศาสตร์เผย วันนี้(30)

งานวิจัยในอดีตพบว่า ปลาบางสายพันธุ์มีขนาดเล็กลงโดยเฉลี่ย เนื่องจากปลาขนาดใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการทำประมงแบบอวนลาก และปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศยังส่งผลกระทบถึงห่วงโซ่อาหาร แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีผู้ศึกษาว่าขนาดของปลาที่ลดลงนั้นจะมีผลกระทบในวงกว้างอย่างไร

นักวิทยาศาสตร์จากออสเตรเลียและฟินแลนด์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากปลาเศรษฐกิจ 5 ชนิดมีขนาดเล็กลงโดยเฉลี่ยในอีก 50 ปีข้างหน้า ซึ่งก็พบว่า แม้ขนาดของปลาจะลดลงเพียง 4% แต่อัตราการถูกล่าอาจเพิ่มสูงขึ้นถึง 50% ทีเดียว

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงนับว่าน่ากังวลไม่น้อย เมื่อผลวิจัยพบว่า ประชากรปลา 4 ใน 5 สายพันธุ์จะลดลงราว 35% ซึ่งทำให้ปลาที่มนุษย์สามารถจับมาเป็นอาหารลดน้อยลงพอๆกัน

“ต่อให้ปลามีขนาดเล็กลงไม่เท่าไหร่ ก็จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่ออัตราการตายตามธรรมชาติของพวกมัน”

นักวิจัยได้ทำการศึกษาปลา 5 สายพันธุ์ที่มีการทำประมงอวนลากในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ได้แก่ ปลา jackass morwong, ปลา tiger flathead, ปลา silver warehou, ปลา blue grenadier และปลา pink ling

ผลการศึกษาพบว่า ประชากรปลาที่สำรวจมีแนวโน้มลดลง 4 ชนิด เว้นเพียงปลา blue grenadier ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กลงเช่นเดียวกับปลาอื่น ทว่ากลับเพิ่มจำนวนขึ้น เนื่องจากพวกมันสามารถอพยพไปอยู่ตามแนวชายฝั่งที่เสี่ยงต่อการถูกล่าน้อยลง

“วิธีจัดการประมงโดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงร่วมสมัยของประวัติชีวิตสัตว์ อาจทำให้เราประเมินผลที่จะได้รับในอนาคตสูงเกินจริง จนนำไปสู่การทำประมงเกินขนาด” นักวิจัยระบุ

ผลการศึกษาชิ้นนี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Royal Society journal Biology Letters