เอเจนซีส์ - บราซิลไว้อาลัยเหยื่อไฟไหม้ในไนต์คลับ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 233 ราย บาดเจ็บอีกกว่าร้อย และหลายคนในจำนวนนี้ยังมีอาการเป็นตายเท่ากัน ขณะที่ผู้รอดชีวิตซึ่งก็เช่นเดียวกับเหยื่อที่ตาย นั่นคือส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยในเมืองซานตามาเรีย ทางตอนใต้ของแดนแซมบ้า เปิดเผยว่า เหยื่อจำนวนมากถูกเหยียบหรือสำลักควันตายเนื่องจาก รปภ.ราตรีสถานแห่งนี้ปิดทางออกฉุกเฉิน ซึ่งยิ่งทำให้ลูกค้าตื่นตระหนกมากขึ้น
พวกเจ้าหน้าที่บราซิลระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 233 คน และบาดเจ็บอีก 116 คน ขณะที่อเล็กซานเดร พาดิลฮา รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับรัฐบาลคือช่วยชีวิตคนที่ยังช่วยได้
ทางด้านประธานาธิบดีดิลมา รุสเซฟฟ์ ได้ตัดกำหนดการและเดินทางออกจากที่ประชุมสุดยอดยุโรป-ละตินอเมริกา ในชิลีทันที
“นี่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับเราทุกคน และฉันไม่สามารถอยู่ประชุมต่อได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉันคือชาวบราซิล” รุสเซฟกล่าวอย่างสะเทือนอารมณ์ก่อนออกเดินทางจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี
“เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและท้องถิ่นต่างนำทรัพยากรทั้งหมดออกมาใช้ เพราะเราไม่ได้ต้องการเพียงแค่ค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังต้องให้การสนับสนุนครอบครัวผู้ประสบเหตุ และดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด” ผู้นำบราซิลสำทับ
นอกจากนี้ ในวันจันทร์ (28) บราซิลยังยกเลิกกิจกรรมการเริ่มต้นนับถอยหลัง 500 วันก่อนถึงพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีหน้าที่แดนแซมบ้าเป็นเจ้าภาพ ซึ่งแน่นอนว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยขณะที่บราซิลกำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกปี 2016 อีกด้วย
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ไนต์คลับชื่อว่า คิส ในเมืองมหาวิทยาลัยซานตา มาเรีย เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันอาทิตย์ (11.00 น.ตามเวลาไทย) เมื่อไนต์คลับแห่งนี้จัดปาร์ตี้ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยและมีนักเที่ยวอยู่ภายในราว 1,500 คน
มิเชลล์ เพอไรรา ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งเล่าว่า สมาชิกวงดนตรียิงดอกไม้ไฟขึ้นไปบนอากาศ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้บนเพดานและเปลวไฟลามทั่วห้องอย่างรวดเร็ว แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งพยายามใช้อุปกรณ์ดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทัน
กุยโด เด เมโล ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงซานตา มาเรีย เผยว่า คนมากมายถูกเหยียบตาย และจำนวนมากเสียชีวิตเพราะสำลักควัน และสำทับว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของไนท์คลับปิดกั้นทางหนีไฟ เนื่องจากกลัวลูกค้าชักดาบ ทำให้สถานการณ์ภายในคลับยิ่งโกลาหลอลหม่านหลายเท่า
นอกจากรีบเร่งดับเพลิงแล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังใช้ค้อนขนาดใหญ่ทุบผนังคลับเพื่อเปิดช่องให้นักเที่ยวหนีออกมา แต่ช้าเกินไปสำหรับผู้คนจำนวนมาก
ร่างผู้เสียชีวิตถูกนำไปไว้ในสนามกีฬาโดยแยกระหว่างหญิง-ชาย และตำรวจต้องปิดกั้นการเข้า-ออกเพื่อป้องกันไม่ให้ญาติดึงดันแห่กันเข้าไปค้นหา
เด เมโลยังระบุว่า ไนท์คลับแห่งนี้ได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการแม้อยู่ระหว่างการต่ออายุใบอนุญาตก็ตาม และชี้ว่ามีการละเมิดมาตรการความปลอดภัยขั้นร้ายแรง โดยเฉพาะการจุดดอกไม้ไฟภายในอาคารและการปิดประตูทางหนีไฟไม่ให้ลูกค้าออก
ทางด้านผู้บริหารไนท์คลับแถลงว่า พนักงานได้รับการฝึกอบรมและเตรียมพร้อมอย่างดีในการรับมือเหตุฉุกเฉิน และทางคลับพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในซานตา มาเรีย หนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก อีกทั้งเป็นหนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งและมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมที่สุดของบราซิล นับเป็นเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ หลังจากเกิดไฟไหม้ใหญ่ในศูนย์การค้าและดิสโก้เธคในเมืองลั่วหยางของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คนเมื่อปี 2000