กระบี่ - ทูต 3 ประเทศ เข้าพบ ผบก.ภ.จว.กระบี่ และพ่อเมืองกระบี่ ติดตามคืบหน้าสาง 7 คดี พร้อมหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ท่องเที่ยว แนะการสื่อสารเป็นปัญหา พร้อมส่งเจ้าหน้าที่อบรมภาษาอังกฤษให้ตำรวจไทย
เวลา 11.00 น.วันนี้ (9 ม.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย 3 ประเทศ ประกอบด้วย อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และแคนาดา ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยมีรอง ผบก. และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ
โดยทางคณะเอกอัครราชทูตได้สอบถามถึงคดีที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีคดีเกิดกับนักท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศที่ยังค้างอยู่ จำนวน 7 คดี เป็นคดีข่มขืน 1 คดี คดีทำร้ายร่างกาย 2 คดี คดีชิงทรัพย์ 2 คดี คดีจราจร 1 คดี และกรณีนักท่องเที่ยวดื่มเครื่องดื่มที่เกาะพีพีจนเสียชีวิต 1 คดี
พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยว่า ทั้งนี้ทางเอกอัครราชทูตประเทศอังกฤษ ได้สอบถามถึงคดีทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว ซึ่งได้มีการจับกุม เรื่องอยู่ในชั้นศาล และคดีรถชนที่เกาะลันตา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประสานงานไกล่เกลี่ย และดำเนินคดีคู่กรณี ส่วนทางเอกอัครราชทูตประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้สอบถามถึงกรณีนักท่องเที่ยวถูกข่มขืน ซึ่งได้มีกรณีของคลิปที่เป็นข่าวโด่งดัง ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล จะมีการตัดสินในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะที่เอกอัครราชทูตประเทศแคนาดา ได้สอบถามถึงกรณีการดูแลนักท่องเที่ยว รวมทั้งการเผยแพร่ข่าวสารกรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่เกาะพีพี และระบุว่า ควรที่จะปิดข้อมูลส่วนตัวในบางเรื่อง เพราะหากเผยแพร่ เช่น รูปถ่ายผู้ตาย วันเกิด ก็จะกระทบกับความรู้สึกของคนในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ทางเอกอัครราชทูตอังกฤษ ได้แจ้งในที่ประชุมหลังทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าทุกคดีว่า มีความคืบหน้าไปมาก แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเกิดขึ้นอยู่ที่การประสานงานที่มีปัญหาในด้านภาษาการสื่อสารถึงกันระหว่างตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางฝ่ายสื่อสารของอังกฤษประจำประเทศไทยมาสอนภาษาให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน ก็จะลดปัญหาลงได้ พร้อมขอบคุณทางตำรวจกระบี่ที่ทำงานอย่างเต็มที่
พล.ต.ต.นันทเดช กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนอกจากการสื่อสารประสานงานกันแล้ว ในบางกรณีคือด้านกฎหมายที่แตกต่างกัน และได้ชี้แจงถึงขั้นตอนของกฎหมายไทยในด้านคดีอาญาให้ทางทูตทั้ง 3 เข้าใจ ส่วนการที่จะมีการมาให้ความรู้ด้านภาษาอังกฤษแก่ทางเจ้าหน้าที่นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะขณะนี้ จังหวัดกระบี่ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามาก แต่ตำรวจที่สามารถสื่อสารกับต่างชาติได้ยังมีอยู่น้อยก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากยิ่งขึ้น หลังจากหารือกับทางตำรวจเสร็จ ทางทูตทั้ง 3 ประเทศ ได้เดินทางเข้าพบนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขอบคุณ และหารือถึงมาตรการความปลอดภัยของจังหวัดกระบี่ในการดูแลนักท่องเที่ยว
