เอเอฟพี/รอยเตอร์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 245 คนในตอนก่อนรุ่งสางของวันอาทิตย์ (27 ม.ค.) เมื่อพระเพลิงเผาผลาญไนต์คลับแห่งหนึ่งในเมืองซานตามาเรีย ทางตอนใต้ของบราซิล หลังจากที่วงดนตรีร็อกโชว์เทคนิคการควบคุมไฟด้วยการจุดพลุซึ่งกลายเป็นชนวนทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ตามรายงานของตำรวจและพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
จำนวนผู้เสียชีวิตจากอัคคีภัยคราวนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พนักงานดับเพลิงพยายามค้นหาไปทั่วซากดำเกรียมเป็นถ่านของไนต์คลับชื่อ เดอะ “คิส” (Kiss) แห่งนี้ โดยที่เชื่อกันว่าในตอนที่ไฟไหม้ลุกลามนั้น มีแขกที่เข้าไปอัดแน่นอยู่ในสถานบันเทิงแห่งนี้ประมาณ 300-400 คน
โศกนาฏกรรมคราวนี้น่าที่จะเป็นอัคคีภัยครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบระยะเวลากว่า 10 ปี ภายหลังจากเหตุพระเพลิงเผาผลาญศูนย์การค้าและดิสโก้เธคในเมืองลั่วหยาง ทางตอนกลางของจีน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 300 คนในปี 2000
ทางด้านประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ ของบราซิล ได้ตัดกำหนดการเยือนชิลี ซึ่งเธอกำลังอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปและละตินอเมริกาอยู่ เพื่อเดินทางกลับบราซิลและกำกับดูแลการรับมือสนองตอบโศกนาฏกรรมคราวนี้
“มันเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับพวกเราทุกคน และดิฉันไม่สามารถที่จะอยู่ในที่ประชุมสุดยอดนี่ได้อีกต่อไป เพราะสำหรับดิฉันแล้ว เรื่องที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกสุดคือประชาชนชาวบราซิล” เธอบอกกับพวกผู้สื่อข่าวซึ่งเดินทางไปพร้อมกับเธอในกรุงซันติอาโก เมืองหลวงของชิลี
สื่อมวลชนบราซิลรายงานว่า ไฟไหม้คราวนี้เกิดขึ้นในเวลาหลังตีสอง วันอาทิตย์ (ตรงกับ 11.00 น.วันอาทิตย์ เวลาเมืองไทย) โดยที่ในคืนดังกล่าวทางไนต์คลับถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งมีการแสดงของวงดนตรีร็อก ที่มีการโชว์เทคนิคการควบคุมไฟด้วย
ลุยซา ซัวซา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายพลเรือนผู้หนึ่งในเมืองซานตามาเรีย เล่าว่า พระเพลิงเริ่มต้นไหม้ขึ้นมา เมื่อมีสมาชิกคนหนึ่งของวงดนตรี หรือไม่ก็เป็นเจ้าหน้าที่ทีมงานโปรดักชัน จุดพลุไฟซึ่งกลับทำให้ไฟลุกที่บริเวณเพดาน แล้วพระเพลิงก็แผ่ลามไปอย่างรวดเร็ว “ในเวลาไม่กี่วินาที” ซัวซา บอก
อัคคีภัยคราวนี้ดูจะมีความคล้ายคลึงกับกรณีก่อนหน้านี้หลายต่อหลายกรณี เป็นต้นว่า รายไฟไหม้ไนต์คลับแห่งหนึ่งในเมืองเวสต์วอร์วิก มลรัฐโรดไอร์แลนด์ สหรัฐฯ เมื่อปี 2003 ซึ่งมีคนตาย 100 คน และกรณีไฟไหม้ไนคลับในกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ปี 2004 ที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คน ทั้ง 2 รายนี้วงดนตรีหรือไม่ก็ผู้ชมเป็นผู้ที่จุดไฟซึ่งลุกลามเผาผลาญออกไปอย่างรวดเร็วควบคุมไม่อยู่
สำหรับเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่ เดอะคิส คราวนี้ ไตย์เญ เวนดรุสโกโล หนึ่งในผู้รอดชีวิต เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนแรกไฟเริ่มลุกขึ้นมานิดเดียว แต่ในเวลาไม่กี่วินาทีก็เกิดการระเบิดและกระจายออกไป ทุกๆ คนพากันเบียดเสียดผลักดันกันไปมา ขณะที่พวกซึ่งอยู่ชิดเวทีไม่สามารถหลุดออกมาข้างนอกได้เลย
“ประตูออกเป็นประตูเล็กนิดเดียวเมื่อมีคนอยากจะออกมาจากที่นั่นมากมายขนาดนี้” ลัวลา ซานโตส ซิลวา ผู้รอดชีวิตอีกคนหนึ่ง เล่าขณะให้สัมภาษณ์ทีวี โกลโบ ของบราซิล
ทางด้านหัวหน้าสำนักงานดับเพลิงเมืองซานตามาเรีย กุยโด เด เมโล บอกกับหนังสือพิมพ์เอสตาเดา ว่า พระเพลิงทำให้คนจำนวนมากแตกตื่นตกใจ และมีนักเที่ยวเยอะทีเดียวทีเสียชีวิตเพราะถูกเหยียบหรือเพราะสูดเอาควันไฟเข้าไป โดยสาเหตุสำคัญที่สุดของการเสียชีวิตคือ อาการขาดอากาศหายใจ
พ.ต.เคลเบร์สัน บัสเตียเนลโล ผู้บัญชาการสารวัตรทหารในซานตามาเรีย ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตไป 245 คน และอีก 48 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งอาจเป็นสัญญาณแสดงว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอีก
