รอยเตอร์ - กองทัพอียิปต์ส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปในเมืองสุเอซ เช้าวันนี้ (26) หลังจากมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 9 ราย ระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ตอกย้ำถึงความแตกแยกร้าวลึกภายในประเทศ ขณะที่ครบรอบ 2 ปีเหตุจลาจลโค่นล้มฮอสนี มูบารัค
แพทย์เผยว่า ผู้เสียชีวิต 8 รายถูกยิงในเมืองสุเอซ และในจำนวนนั้นมีตำรวจด้วย ส่วนเหยื่อความรุนแรงอีกรายถูกยิงเสียชีวิตในเมืองอิสมาอิเลีย ขณะที่เจ้าหน้าที่เสริมว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 456 จากทั่วประเทศ ในเหตุความไม่สงบที่ลุกฮือขึ้นจากความไม่พอใจในตัวมอร์ซี และพันธมิตรพรรคอิสลามิสต์ ซึ่งผู้ประท้วงมองว่าเป็นพวกเขาทรยศต่อการปฏิวัติอียิปต์ ในวันศุกร์ (25) ที่ผ่านมา
มอร์ซีกล่าวในถ้อยแถลงว่า รัฐบาลจะไม่ลังเลในการปราบปรามอาชญากร และนำตัวพวกเขาเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอียิปต์เคารพหลักการการปฏิวัติของพวกเขา ด้วยการแสดงความเห็นอย่างสันติ
กองกำลังทหารถูกส่งไปปฏิบัติการในเมืองสุเอซ หลังจากผู้กำกับการตำรวจรักษาความมั่นคงในเมืองดังกล่าวร้องขอกำลังเสริม โดยกองทัพยังแจกจ่ายใบปลิวเพื่อชี้แจงให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ได้มั่นใจว่า การส่งกำลังเสริมเข้าไปเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว และมีเป้าหมายเพื่อรักษาความมั่นคงในเมืองเท่านั้น
ผู้ต่อต้านประธานาธิบดีมอร์ซีหลายพันคนรวมตัวกัน ณ จตุรัสตอห์รีร์ สถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติโค่นล้มมูบารัค ในวันศุกร์ เพื่อชูข้อเรียกร้องของการปฏิวัติครั้งนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งพวกเขากล่าวว่าถูกพรรคมุสลิม บราเธอร์ฮูด ของมอร์ซี ปล้นเอาไป
นอกจากนี้ ยังเกิดการต่อสู้ปะทะกันตามท้องถนนสายต่างๆ ทั้งในกรุงไคโร เมืองอเล็กซานเดรีย เมืองสุเอซ และพอร์ต ซาอิด คนร้ายจุดไฟเผาอาคาร ซึ่งเป็นของรัฐ อย่างน้อย 2 แห่ง โดยอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสำนักงานพรรคการเมืองของมุสลิม บราเธอร์ฮูดก็ถูกเผาเช่นกัน
โอกาสครบรอบ 2 ปีการปฏิวัติอียิปต์ในวันศุกร์นั้นยิ่งทำให้ความแตกแยกระหว่างฝ่ายอิสลามิสต์ และฝ่ายตรงข้ามชัดเจนขึ้น โดยความแตกแยกดังกล่าวยังเป็นอุปสรรคกับความพยายามของมอร์ซี ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤต และพลิกผันค่าเงินที่ตกต่ำด้วยการดึงนักลงทุน และนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ
