กองทัพสหรัฐฯ เตรียมยกเลิกกฎห้าม “ทหารหญิง” ออกรบแนวหน้า

เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เลียน เพเนตตา มีแผนยกเลิกกฎกองทัพที่ห้ามมิให้ทหารหญิงต่อสู้ในสนามรบ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้สตรีสามารถออกรบแนวหน้าได้เช่นเดียวกับชาย เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผย วานนี้ (23)

นโยบายล่าสุดเป็นอีกหนึ่งการปฏิรูปภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งยังผลักดันให้กองทัพยกเลิกกฎที่ห้ามทหารเป็นคนรักร่วมเพศด้วย

เพเนตตา และพลเอก มาร์ติน เด็มป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ อาจ “ประกาศยกเลิกกฎที่ห้ามสตรีในกองทัพออกรบแนวหน้า... ซึ่งการเปลี่ยนนโยบายครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการนำไปปฏิบัติจริง ตามที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้ตัดสินใจ โดยได้รับคำแนะนำจากประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมแล้ว” เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ แจ้งผู้สื่อข่าวผ่านอีเมล

เพเนตตา และเด็มป์ซีย์ อาจประกาศเปลี่ยนแปลงกฎอย่างเป็นทางการภายในวันนี้ (24) ซึ่งจะช่วยให้สตรีอีกหลายหมื่นคนได้มีโอกาสเป็นทหารแนวหน้า ขณะที่กองทัพมีเวลาไปจนถึงเดือนมกราคม ปี 2016 เพื่อปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับระเบียบใหม่

ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ส.ส.พรรคเดโมแครตสายเลือดไทย และอดีตนักบินเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กซึ่งสูญเสียขาทั้ง 2 ข้างไปในสงครามอิรัก ออกมาแสดงความชื่นชมยินดีในกฎระเบียบใหม่ของกองทัพสหรัฐฯ ด้วย

“บุตรสาวของอเมริกาทุกคนล้วนแต่มีศักยภาพพอที่จะปกปักรักษาเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุตรชาย ดังนั้น การยกเลิกกฎที่ห้ามผู้หญิงเข้าสนามรบจึงเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศของเรา” ดักเวิร์ธ โพสข้อความผ่านทวิตเตอร์

แม้ทหารหญิงจะได้รับอนุญาตให้ขับเครื่องบินโจมตีและใช้อาวุธบนเรือรบสหรัฐฯ ทว่า เพนตากอนยังมีกฎห้ามมิให้พวกเธอร่วมต่อสู้ภาคพื้นดิน

ปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ มีทหารสตรีอยู่ประมาณ 204,000 นาย หรือราวร้อยละ 14.5 ของบุคลากรกองทัพทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมามีเสียงวิจารณ์ว่าการห้ามมิให้ทหารหญิงไปรบแนวหน้าเท่ากับปิดโอกาสที่พวกเธอจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ ในกองทัพ เช่น ผู้บัญชาการทหาร เป็นต้น