เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “ซอมบี้” หรือพวกซากศพเดินได้ที่ถูกปลุกขึ้นจากความตายให้กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกได้เห็นกันจนชาชินสายตาจากภาพยนตร์หลายร้อยเรื่องโดยเฉพาะภาพยนตร์ที่สร้างจากฝั่งฮอลลีวูดของสหรัฐฯ
จริงอยู่ที่ว่าแม้ผู้คนส่วนใหญ่จะทราบดีว่า เจ้าสิ่งที่มีสภาพเป็น “ครึ่งคนครึ่งผีดิบ” ที่ถูกบรรดาผู้กำกับมือทองในฮอลลีวูดสร้างภาพไว้ว่า โปรดปรานการบริโภคเนื้อหนังและสมองของมนุษย์เป็นชีวิตจิตใจเหล่านี้จะไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ทว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลับมีผู้คนอีกส่วนหนึ่งที่มีความเชื่ออย่างฝังหัวว่า ซอมบี้มีจริงและยังเชื่ออีกว่าสักวันหนึ่งพวกมันจะออกมาอาละวาดกัดกินมนุษย์แพร่กระจายเชื้อผีร้ายไปทั่วโลก จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า zombie apocalypse ที่นำไปสู่การสูญสิ้นอารยธรรมของมวลมนุษยชาติในที่สุด
ล่าสุดกลุ่มผู้ที่เชื่อในการมีตัวตนจริงของซอมบี้ที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มติดอาวุธต่อต้านซอมบี้แห่งแคนซัส” หรือ “KAZM” ในสหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันความเชื่อของพวกเขา ทั้งยังประกาศว่ากำลังทำการค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับหายนะครั้งใหญ่ในวันที่ซอมบี้บุกโลก โดยหนึ่งในความมุ่งหมายหลักของพวกเขา คือ การหาทางปกป้องมนุษยชาติจากการติดเชื้อมรณะและกลายเป็นซอมบี้
ความเคลื่อนไหวอย่างเป็นจริงเป็นจังของกลุ่มติดอาวุธต่อต้านซอมบี้ดังกล่าว ถูกช่องรายการสารคดีชื่อก้องโลกของสหรัฐฯ อย่าง “ดิสคัฟเวอรี ” ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 นำไปถ่ายทอดออกอากาศ พร้อมอ้างข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของสหรัฐฯ หลายรายว่า ความเชื่อฝังหัวของกลุ่มติดอาวุธนี้มีความ “เป็นไปได้” เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังอย่าง “เดอะ แคนซัส ซิตี สตาร์” ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่คว้ารางวัล “พูลิตเซอร์” อันทรงเกียรติได้ถึง 8 รางวัลที่ตัดสินใจนำเสนอเรื่องราวพวกต่อต้านซอมบี้กลุ่มนี้เป็นข่าวหน้า 1 มาแล้ว ขณะที่จำนวนแฟนเพจ หรือผู้คนที่เข้าไปกดไลก์หน้าเฟซบุ๊กของกลุ่มดังกล่าวล่าสุดมีจำนวนมากกว่า 1,600 คน
อัลเฟรโด การ์บาฮัล โฆษกของกลุ่มติดอาวุธต่อต้านซอมบี้แห่งแคนซัสเผยว่า สมาชิกในกลุ่มของพวกเขามาจากหลากหลายสาขาอาชีพ และมีหลายรายที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ทหาร นักธุรกิจ และแพทย์ พร้อมยืนยันว่า การรวมตัวกันของพวกเขามิใช่เป็นการชุมนุมของพวก “คนบ้า” หรือพวกชอบ “เพ้อฝัน” ตามที่หลายฝ่ายโจมตี
การ์บาฮัลระบุว่า ขณะนี้ทางกลุ่มของพวกเขากำลังเตรียมเปิดห้องแล็บเพื่อความมั่นคงทางชีวะขึ้น ภายในเมืองแมนฮัตตัน ในมลรัฐแคนซัสที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 52,000 คน เพื่อทำการค้นคว้าทดลองต่างๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันมิให้มนุษย์ติดเชื้อซอมบี้จากการถูกกัด และหาทางรักษาเยียวยาผู้ที่ติดเชื้อไปแล้วให้หายเป็นปกติ
โฆษกของกลุ่มต้านซอมบี้รายนี้ยังเปิดใจกับนักข่าวของหนังสือพิมพ์แคนซัส ซิตี สตาร์ว่า หากมนุษย์รู้จักเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามของพวกซอมบี้แล้ว มนุษย์เราก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องหวาดกลัวกับภัยคุกคามอื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภาวะโรคระบาดร้ายแรง การล่มสลายของรัฐบาลหรือแม้แต่การรุกรานของกองทัพต่างชาติ
นอกจากนั้น การ์บาฮัลยังให้คำแนะนำขั้นพื้นฐานในการรับมือกับพวกซอมบี้โดยย้ำว่า มนุษย์ไม่ควรรับมือกับโขยงซอมบี้ตามลำพังเพราะนั่นเท่ากับเป็นการ “ฆ่าตัวตาย” พร้อมเตือนว่า หากโลกของเราต้องเผชิญกับการออกอาละวาดของซอมบี้จริงก็ขอให้บรรดามนุษย์ที่ยังไม่ติดเชื้อหาทางป้องกันตนเองด้วยการปกคลุมผิวหนังทุกส่วนให้มิดชิดในยามออกจากบ้าน เพื่อลดอัตราการติดเชื้อหากถูกซอมบี้กัด และขอให้ใช้ปืนและอาวุธไม่มีคมจำพวก “กระบอง” ในการต่อกรกับซากศพเดินได้เหล่านี้ ซึ่งทางกลุ่มอ้างว่าวิธีการดังกล่าว ได้ผลดีกว่าการใช้อาวุธมีคม
และหากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011 ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐจอร์เจียทางภาคใต้ของสหรัฐฯ ก็ได้ตีพิมพ์คู่มือที่ชื่อ “Preparedness 101 : Zombie Apocalypse” เพื่อแนะนำหนทางเอาตัวรอดขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนชาวอเมริกัน หากวันที่ซอมบี้ออกอาละวาดมาถึง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานของทางการสหรัฐฯ ออกคำเตือนที่เกี่ยวกับภัยคุกคามประเภทนี้
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าซอมบี้หรือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอื่นๆ จะมีอยู่จริงหรือไม่ ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป หากมนุษย์เราไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตและใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมงบนพื้นฐานของความเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย วาจา และจิตใจอย่างมีสติอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่เรียกว่า “สติ” นี้น่าจะเป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดของมนุษย์เราในการเอาตัวรอดจากมหันตภัยร้ายแรงต่างๆ รวมถึง การเผชิญหน้ากับพวกซอมบี้ หากมันมีอยู่จริง!
จริงอยู่ที่ว่าแม้ผู้คนส่วนใหญ่จะทราบดีว่า เจ้าสิ่งที่มีสภาพเป็น “ครึ่งคนครึ่งผีดิบ” ที่ถูกบรรดาผู้กำกับมือทองในฮอลลีวูดสร้างภาพไว้ว่า โปรดปรานการบริโภคเนื้อหนังและสมองของมนุษย์เป็นชีวิตจิตใจเหล่านี้จะไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ทว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลับมีผู้คนอีกส่วนหนึ่งที่มีความเชื่ออย่างฝังหัวว่า ซอมบี้มีจริงและยังเชื่ออีกว่าสักวันหนึ่งพวกมันจะออกมาอาละวาดกัดกินมนุษย์แพร่กระจายเชื้อผีร้ายไปทั่วโลก จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า zombie apocalypse ที่นำไปสู่การสูญสิ้นอารยธรรมของมวลมนุษยชาติในที่สุด
ล่าสุดกลุ่มผู้ที่เชื่อในการมีตัวตนจริงของซอมบี้ที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มติดอาวุธต่อต้านซอมบี้แห่งแคนซัส” หรือ “KAZM” ในสหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันความเชื่อของพวกเขา ทั้งยังประกาศว่ากำลังทำการค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับหายนะครั้งใหญ่ในวันที่ซอมบี้บุกโลก โดยหนึ่งในความมุ่งหมายหลักของพวกเขา คือ การหาทางปกป้องมนุษยชาติจากการติดเชื้อมรณะและกลายเป็นซอมบี้
ความเคลื่อนไหวอย่างเป็นจริงเป็นจังของกลุ่มติดอาวุธต่อต้านซอมบี้ดังกล่าว ถูกช่องรายการสารคดีชื่อก้องโลกของสหรัฐฯ อย่าง “ดิสคัฟเวอรี ” ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 นำไปถ่ายทอดออกอากาศ พร้อมอ้างข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของสหรัฐฯ หลายรายว่า ความเชื่อฝังหัวของกลุ่มติดอาวุธนี้มีความ “เป็นไปได้” เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังอย่าง “เดอะ แคนซัส ซิตี สตาร์” ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่คว้ารางวัล “พูลิตเซอร์” อันทรงเกียรติได้ถึง 8 รางวัลที่ตัดสินใจนำเสนอเรื่องราวพวกต่อต้านซอมบี้กลุ่มนี้เป็นข่าวหน้า 1 มาแล้ว ขณะที่จำนวนแฟนเพจ หรือผู้คนที่เข้าไปกดไลก์หน้าเฟซบุ๊กของกลุ่มดังกล่าวล่าสุดมีจำนวนมากกว่า 1,600 คน
อัลเฟรโด การ์บาฮัล โฆษกของกลุ่มติดอาวุธต่อต้านซอมบี้แห่งแคนซัสเผยว่า สมาชิกในกลุ่มของพวกเขามาจากหลากหลายสาขาอาชีพ และมีหลายรายที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ทหาร นักธุรกิจ และแพทย์ พร้อมยืนยันว่า การรวมตัวกันของพวกเขามิใช่เป็นการชุมนุมของพวก “คนบ้า” หรือพวกชอบ “เพ้อฝัน” ตามที่หลายฝ่ายโจมตี
การ์บาฮัลระบุว่า ขณะนี้ทางกลุ่มของพวกเขากำลังเตรียมเปิดห้องแล็บเพื่อความมั่นคงทางชีวะขึ้น ภายในเมืองแมนฮัตตัน ในมลรัฐแคนซัสที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 52,000 คน เพื่อทำการค้นคว้าทดลองต่างๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันมิให้มนุษย์ติดเชื้อซอมบี้จากการถูกกัด และหาทางรักษาเยียวยาผู้ที่ติดเชื้อไปแล้วให้หายเป็นปกติ
โฆษกของกลุ่มต้านซอมบี้รายนี้ยังเปิดใจกับนักข่าวของหนังสือพิมพ์แคนซัส ซิตี สตาร์ว่า หากมนุษย์รู้จักเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามของพวกซอมบี้แล้ว มนุษย์เราก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องหวาดกลัวกับภัยคุกคามอื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภาวะโรคระบาดร้ายแรง การล่มสลายของรัฐบาลหรือแม้แต่การรุกรานของกองทัพต่างชาติ
นอกจากนั้น การ์บาฮัลยังให้คำแนะนำขั้นพื้นฐานในการรับมือกับพวกซอมบี้โดยย้ำว่า มนุษย์ไม่ควรรับมือกับโขยงซอมบี้ตามลำพังเพราะนั่นเท่ากับเป็นการ “ฆ่าตัวตาย” พร้อมเตือนว่า หากโลกของเราต้องเผชิญกับการออกอาละวาดของซอมบี้จริงก็ขอให้บรรดามนุษย์ที่ยังไม่ติดเชื้อหาทางป้องกันตนเองด้วยการปกคลุมผิวหนังทุกส่วนให้มิดชิดในยามออกจากบ้าน เพื่อลดอัตราการติดเชื้อหากถูกซอมบี้กัด และขอให้ใช้ปืนและอาวุธไม่มีคมจำพวก “กระบอง” ในการต่อกรกับซากศพเดินได้เหล่านี้ ซึ่งทางกลุ่มอ้างว่าวิธีการดังกล่าว ได้ผลดีกว่าการใช้อาวุธมีคม
และหากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011 ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐจอร์เจียทางภาคใต้ของสหรัฐฯ ก็ได้ตีพิมพ์คู่มือที่ชื่อ “Preparedness 101 : Zombie Apocalypse” เพื่อแนะนำหนทางเอาตัวรอดขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนชาวอเมริกัน หากวันที่ซอมบี้ออกอาละวาดมาถึง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานของทางการสหรัฐฯ ออกคำเตือนที่เกี่ยวกับภัยคุกคามประเภทนี้
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าซอมบี้หรือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอื่นๆ จะมีอยู่จริงหรือไม่ ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป หากมนุษย์เราไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตและใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมงบนพื้นฐานของความเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย วาจา และจิตใจอย่างมีสติอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่เรียกว่า “สติ” นี้น่าจะเป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดของมนุษย์เราในการเอาตัวรอดจากมหันตภัยร้ายแรงต่างๆ รวมถึง การเผชิญหน้ากับพวกซอมบี้ หากมันมีอยู่จริง!