ASTVผู้จัดการ - สถานีโทรทัศน์อัลญะซีเราะห์รายงานกรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 กลางอากาศ ระบุเมืองไทยหาความโปร่งใสยาก จับพิรุธช่อง 3 ใช้เวลากว่า 5 วันถึงหาเหตุผลมาอธิบายได้ ชี้แม้จะเป็นประเทศประชาธิปไตยแต่เหมือนเป็นการตัดสินใจของเผด็จการมากกว่า
รายงานข่าวการแบนละครเหนือเมฆ 2 โดยสถานีโทรทัศน์อัลญะซีเราะห์
วานนี้ (9 ม.ค.) สถานีโทรทัศน์อัลญะซีเราะห์ภาคภาษาอังกฤษของกาตาร์ ได้เผยแพร่รายงานข่าวเกี่ยวกับการระงับการออกอากาศละคร “เหนือเมฆ 2 : มือปราบจอมขมังเวทย์” จากการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานเรื่อง “ความวุ่นวายจากการยกเลิกรายการโทรทัศน์ของไทย (Uproar over Thai TV show cancellation)” โดยนายเวย์น เฮย์ ผู้สื่อข่าวอัลญะซีเราะห์ที่กรุงเทพฯ ระบุว่า ละครเหนือเมฆถูกระงับออกอากาศด้วยข้ออ้างที่ว่ามีเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงไม่เหมาะสม
“เหนือเมฆเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีขี้ฉ้อ และหมอผีที่มีอิทธิพลเหนือทั้งสองคน โดยมีการคาดหมายว่าละครเรื่องนี้ถูกระงับออกอากาศเนื่องจากการแทรกแซงทางการเมือง หลังจากมีการพิจารณาว่าเนื้อหานั้นกระทบกับรัฐบาล” รายงานของอัลญะซีเราะห์ระบุ
อย่างไรก็ตาม นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปฏิเสธการแทรกแซงทางการเมืองโดยโบ้ยไปว่าเป็นเรื่องของช่อง 3 เอง และรัฐบาลไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวและบอกสถานีโทรทัศน์ว่าสิ่งใดควรออกอากาศหรือไม่
ผู้สื่อข่าวอัลญะซีเราะห์ระบุด้วยว่า ความโปร่งใสในเมืองไทยนั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยาก โดยจากกรณีการระงับการออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 นั้น ช่อง 3 ใช้เวลาถึง 5 วัน กว่าที่จะออกมาแถลงถึงเหตุผลของการระงับการออกอากาศ และอ้างว่าไม่มีการแทรกแซงจากฝั่งการเมือง ซึ่งช่องว่างดังกล่าวเปิดให้สังคมคาดเดาถึงสาเหตุของการระงับออกอากาศไปได้ต่างๆ นานา
นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักวิชาการและปัญญาชนอาวุโส ได้ให้ความเห็นถึงปรากฏการณ์ของการแบนละครเหนือเมฆ 2 ซึ่งก่อให้เกิดข่าวลือต่างๆ มากมายว่า สังคมไทยยังคงอยู่ในวัฒนธรรมแบบหมู่บ้าน ที่พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่ใช้วิธีการซุบซิบนินทาเป็นหลัก
“เป็นเรื่องน่าขันที่ดรามาทางการเมืองไทยเรื่องแรกของปี กลับกลายเป็นเรื่องละครน้ำเน่า ขณะที่การเมืองไทย ณ เวลานี้ก็เหมือนจะเป็นละครน้ำเน่าที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ข่าวลือ ข่าวลวง หรือแม้แต่การกล่าวหาเรื่องความสัมพันธ์แบบชู้สาว และการฆาตกรรม” นายเฮย์ระบุ และกล่าวสรุปว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตย แต่การแบนละครเรื่องนี้ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ชมใช้วิจารณญาณด้วยตัวเอง และคล้ายว่าจะเป็นการตัดสินใจของเผด็จการเสียมากกว่า