เอเอฟพี/เอเจนซี - ผู้นำหนุ่ม “คิม จองอึน” แห่งรัฐโสมแดง ถือโอกาสในเทศกาลปีใหม่ กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอังคาร (1) เรียกร้องให้ทำการ “เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง” ในเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งเชิญชวนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยุติการเผชิญหน้า หลังจากที่อยู่ในฐานะคู่สงครามทางเทคนิคมานานถึง 60 ปี
ในสุนทรพจน์ที่ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ คิมบอกว่า ปีใหม่ 2013 จะเป็นปีหนึ่งที่มี “การสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่ โดยที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในด้านต่างๆ ขึ้นมา” และเสริมด้วยว่า “การสร้างยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจขึ้นมาให้สำเร็จคือภารกิจสำคัญที่สุด” สำหรับประเทศชาติ
เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือเพิ่งก่อความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาค โดยยิงจรวดที่อ้างว่าเป็นการส่งดาวเทียมทางวิทยาศาสตร์ขึ้นสู่วงโคจร ทว่าถูกระบุว่าเป็นการแอบทดลองจรวดพิสัยไกล ทั้งนี้ โสมแดงถูกสั่งห้ามทดสอบขีปนาวุธหรือเทคโนโลยีด้านนิวเคลียร์ ภายใต้มติคว่ำบาตรของยูเอ็นซึ่งมีผลบังคับหลังจากเปียงยางทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในปี 2006 และ 2009
คิมกล่าวยกย่องความสำเร็จของเหล่านักวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศของประเทศในการทดสอบส่งดาวเทียม แต่บอกว่าถึงเวลานี้ประเทศชาติจะต้องใช้ความพยายามในทำนองเดียวกันสำหรับแนวรบทางด้านเศรษฐกิจ
“ทั่วทั้งพรรค ทั่วทั้งประเทศ และประชาชนทั้งมวล ควรต้องดำเนินการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวในปีนี้ เพื่อให้บังเกิดผลเป็นการเปลี่ยนแปลงในการสร้างยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจขึ้นมา และในการปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน” ผู้นำหนุ่มบอก
ทว่า เขาไม่ได้พูดรายละเอียดใดๆ ว่าจะทำอะไรบ้างสำหรับการกอบกู้เศรษฐกิจของรัฐโสมแดง ซึ่งกำลังถูกฝ่ายตะวันตกคว่ำบาตร และต้องพึ่งพาจีนสำหรับการค้าต่างประเทศถึงประมาณ 70% ของตน
ในสุนทรพจน์ที่มีการบันทึกเทปล่วงหน้า คิมยังมีน้ำเสียงในทางรอมชอมกับเกาหลีใต้ โดยกล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่จะยุติการแบ่งแยกประเทศและทำให้เกิดการรวมชาติได้ก็คือ ต้องยุติการเผชิญหน้าระหว่างเกาหลีเหนือและใต้”
“ประวัติความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีที่ผ่านมาๆชี้ให้เห็นแล้วว่า การเผชิญหน้าระหว่างคนชาติเดียวกันนั้นไม่ได้ให้อะไร นอกจากสงคราม”
เป็นที่น่าแปลกใจว่าผู้นำคิมมิได้เอ่ยถึงโครงการนิวเคลียร์เลยแม้แต่น้อย
ถ้อยแถลงของคิม จองอึน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปีที่ผู้นำเกาหลีเหนือมีสุนทรพจน์ในวันขึ้นปีใหม่ หรือตั้งแต่สมัยของประธานาธิบดีคิม อิลซุง ซึ่งเป็นปู่ของผู้นำหนุ่มเป็นต้นมา โดยในยุคของผู้นำคิม จองอิล ผู้เป็นบิดาของจองอึน นั้น เขาแทบไม่เคยมีถ้อยแถลงต่อสาธารณชน และจะเปิดเผยนโยบายต่างๆ ผ่านบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ของรัฐเท่านั้น
ถ้อยแถลงแบบรอมชอมจากผู้นำเกาหลีเหนือเช่นนี้ ออกมาในขณะที่เกาหลีใต้เองก็กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลง โดยในเดือนที่แล้ว พัค กึน-ฮเย บุตรสาวของอดีตผู้นำเผด็จการ พัค จอง-ฮี ผู้ซึ่งประธานาธิบดีคิม อิล-ซุง เคยพยายามลอบสังหารในช่วงสงครามเย็น ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งเกาหลีใต้ ทั้งนี้เธอชูนโยบายสานสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ และเปิดเจรจาเพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน แม้ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้โสมแดงล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือคงไม่ยอมทำตามง่ายๆ