เอเอฟพี - กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสำนักงานบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วประเทศ วันนี้ (25) หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว มิตซูบิชิ ประกาศเรียกคืนรถยนต์เพิ่มอีก 1.2 ล้านคันจากปัญหาน้ำมันรั่ว ซึ่งทำให้จำนวนรถที่ถูกเรียกคืนด้วยสาเหตุนี้สูงถึง 1.7 ล้านคันแล้ว
กระทรวงคมนาคมออกมาวิจารณ์การเรียกคืนรถยนต์ในครั้งนี้ พร้อมทั้งสั่งตรวจสอบสำนักงานใหญ่มิตซูบิชิในกรุงโตเกียว และสำนักงานควบคุมคุณภาพทุกแห่งทั่วประเทศ
“เราส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสำนักงานของมิตซูบิชิ เพื่อดูว่าแผนปรับปรุงคุณภาพที่บริษัทส่งมายังกระทรวงนั้น มีความเหมาะสมหรือไม่” ทสึเนกิ มัตสุโอะ โฆษกกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่า การตรวจสอบซึ่งต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 40 คน จะครอบคลุมถึงผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิด้วย
เมื่อ 2 ปีก่อน มิตซูบิชิต้องประกาศเรียกคืนรถยนต์เกือบ 250,000 คัน และอีกราว 300,000 คันในปีนี้ หลังกระทรวงคมนาคมได้รับรายงานจากบุคคลนิรนามเกี่ยวกับปัญหาน้ำมันรั่ว และสั่งให้ มิตซูบิชิ กลับไปตรวจสอบข้อบกพร่องดังกล่าว
ล่าสุด มิตซูบิชิได้เรียกคืนรถยนต์เพิ่มเติมอีก 1.2 ล้านคันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยและคุณภาพที่บั่นทอนชื่อเสียงอุตสาหกรรมรถยนต์เมืองปลาดิบอีกครั้งหนึ่ง
มิตซูบิชิแถลงว่า สาเหตุของน้ำมันรั่วอาจเกิดจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์มีปัญหา และทำให้เกจ์ความดันน้ำมันบนแผงหน้าปัดรถมีไฟสว่างขึ้น ในกรณีเลวร้ายเครื่องยนต์อาจจะน็อคได้ ทว่าที่ผ่านมายังไม่มีรายงานอุบัติเหตุซึ่งเกิดจากความบกพร่องในจุดนี้มาก่อน
กระทรวงคมนาคมออกมาตำหนิที่มิตซูบิชิไม่เผยปัญหาดังกล่าวให้สาธารณชนรับทราบอย่างกว้างขวาง และจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าพบผู้บริหารมิตซูบิชิ เพื่อกดดันให้เร่งแก้ไขข้อบกพร่องโดยเร็ว
กระทรวงคมนาคมยังสั่งให้มิตซูบิชิส่งรายงานมาตรการป้องกันมิให้ปัญหาลักษณะเดิมๆ เกิดขึ้นอีก และจะให้รัฐบาลส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบการเรียกคืนรถยนต์ครั้งนี้ด้วย
มิตซูบิชิมีถ้อยแถลงวันนี้ (25) ว่า บริษัทพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ และจะหาทางป้องกันมิให้เกิดข้อบกพร่องอีก
เมื่อ 10 ปีก่อน มิตซูบิชิเคยออกมายอมรับว่าพยายามปิดบังข้อร้องเรียนหลายพันกรณีจากผู้ใช้รถยนต์ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 มิให้กระทรวงคมนาคมและสาธารณชนได้รับทราบ และเคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงที่มีสาเหตุจากปัญหาด้านความปลอดภัยมาแล้ว