xs
xsm
sm
md
lg

หวั่น US ไม่พ้น “หน้าผาการคลัง” รีพับลิกัน-เดโมแครตสาดโคลนใส่กัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โอบามา ต้องเร่งมือแก้ไขวิกฤตตัดลดงบประมาณ
เอเจนซี - สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ แสดงความกังวลกันมากขึ้นว่าอเมริกาจะไม่อาจรอดพ้นจาก “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff) ค่าที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันก่อนสิ้นปี อันเป็นกำหนดเวลาที่มาตรการลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีเริ่มมีผลบังคับโดยอัตโนมัติ โดยที่ทั้งสองพรรคใหญ่ เดโมแครต-รีพับลิกัน ต่างพากันโทษกันและกันตามสไตล์

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามีแนวโน้มมากขึ้นที่เราจะต้องเผชิญหน้าผาการคลัง” โจ ลิเบอร์แมน วุฒิสมาชิกอิสระจากมลรัฐคอนเนตทิคัต ให้สัมภาษณ์รายการ “สเตท ออฟ ดิ ยูเนียน” ของซีเอ็นเอ็น เมื่อวันอาทิตย์ (23)

“ถ้าเรายอมให้สถานการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้น ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ใหญ่โตมโหฬารที่สุดสืบเนื่องจากการไร้ความรับผิดชอบของรัฐสภาในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว หรือกระทั่งอาจยังไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อเมริกัน แถมเรื่องนี้ยังทำท่าว่าจะลากยาวข้ามปี ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่ๆ ต่อเศรษฐกิจของประเทศ” เขากล่าวต่อ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจากพรรคเดโมแครต และจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จากรีพับลิกัน สองผู้เจรจาสำคัญเพื่อหาทางไม่ให้สหรัฐฯต้องเผชิญ “หน้าผาการคลัง”นี้ ไม่มีนัดหารือกันในช่วงนี้ และต่างอยู่ระหว่างเดินทางไปฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่นอกกรุงวอชิงตัน ขณะเดียวกับที่รัฐสภาก็ปิดประชุม และเมื่อทุกฝ่ายกลับมาทำงานกันอีกครั้งหลังคริสต์มาส ก็จะมีเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันที่ 1 มกราคม

จากรายการสัมภาษณ์บุคคลในข่าวประจำช่วงวันอาทิตย์ ของเครือข่ายทีวียักษ์ใหญ่อเมริกันหลายๆ รายการในวันอาทิตย์ (23) ที่ผ่านมา ไม่มีนักการเมืองคนใดส่งสัญญาณว่าจะยอมเปลี่ยนท่าทีซึ่งอาจนำไปสู่ทางออกชั่วคราว แม้โอบามาแย้มว่า จะยินดีมากหากมีวิธีแก้ปัญหาระยะสั้น

โฟกัสขณะนี้เปลี่ยนไปที่การรับมือในช่วงเวลาหลังวันที่ 1 มกราคม เมื่อมาตรการลดภาษีประเภทต่างๆ ของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช สิ้นสุดลง ขณะเดียวกันมาตรการตัดลดงบประมาณกลาโหม และงบประมาณรายการอื่นๆ อย่างอัตโนมัติ ก็จะเริ่มมีผลบังคับใช้

จอห์น บาร์รัสโซ วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน กล่าวทางรายการของ ฟ็อกซ์ นิวส์ว่า โอบามาอยากให้อเมริกาเผชิญวิกฤตหน้าผาการคลัง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนเองได้รับชัยชนะทางการเมือง

สมาชิกรีพับลิกันอื่นๆ บางคนก็ขานรับว่าโอบามาพอใจกับการหมดอายุของมาตรการลดภาษีตลอดจนการตัดลดงบประมาณรายจ่ายอย่างอัตโนมัติเหล่านี้ ดังที่เรียกกันว่าเป็น ภาวะหน้าผาการคลัง โดยที่พวกเขากล่าวว่าโอบามามองเรื่องนี้ว่าเป็นโอกาสที่จะได้โยนความผิดไปที่รีพับลิกัน ซึ่งปฏิเสธการทำความตกลงกับเขา ถึงแม้ทางด้านทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้แล้วก็ตาม

ในทางกลับกัน ชาร์ลส์ ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกเดโมแครตกล่าวผ่านรายการ "มีท เดอะ เพรสส์" ของเครือข่ายเอ็นบีซี กล่าวหา โบห์เนอร์ ว่ากำลังพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้บรรลุข้อตกลงกับโอบามาก่อนวันที่ 3 มกราคม โดยที่ในวันดังกล่าวคือวันซึ่งสมาชิกสภาล่างชุดใหม่ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง และจะมีการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่

ฝ่ายเดโมแครตกล่าวหาว่า โบห์เนอร์ไม่ต้องการให้ตนเองมีภาพลักษณ์ในทางอ่อนข้อต่อโอบามา ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการได้รับเลือกเป็นประธานสภาอีกสมัย ทว่า โบห์เนอร์ ยืนยันว่า ไม่เคยคิดเรื่องดังกล่าว และโดยข้อเท็จจริงแล้ว พวกนักวิเคราะห์การเมืองก็ยังมองไม่เห็นว่าจะมีคู่แข่งขันที่น่ากลัวใดๆ กำลังจะมาท้าชิงกับโบห์เนอร์

การสาดโคลนกันไปมาเช่นนี้ ปะทุขึ้นตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนที่แล้ว แต่เพิ่งจะมาดุเดือดในช่วงไม่กี่วันนี้ หลังจากมีแนวโน้มมากขึ้นว่า วิกฤตหน้าผาการคลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ

รัฐสภาสหรัฐฯ เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ภาวะหน้าผาการคลังตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 ถึงแม้ในตอนนั้นจะมองการณ์กันในแง่ดีว่า ความเสี่ยงที่จะต้องมีการลดงบประมาณรายจ่ายอัตโนมัติ บวกกับการยุติมาตรการลดภาษี รวมแล้วเป็นมูลค่าราว 600,000 ล้านดอลลาร์ จะบีบบังคับให้ทำเนียบขาวที่ควบคุมโดยเดโมแครต และสภาล่างที่รีพับลิกันครองอยู่ ยอมประนีประนอมกันผ่านแผนการยืดอายุการลดภาษีให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ตลอดจนควบคุมการใช้จ่ายของภาครัฐให้รัดกุมมากขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ถ้ายังไม่มีการขยับทำอะไรกันแล้ว การขึ้นภาษีและตัดลดงบประมาณรายจ่ายที่เกิดจากหน้าผาการคลัง น่าจะทำให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

ทั้งนี้ หากรัฐสภาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงอะไรกันแล้ว อเมริกันชนเกือบทุกคนจะถูกเรียกเก็บภาษีรายได้ในอัตราสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 ขณะที่สวัสดิการการว่างงานที่เดโมแครตหวังต่ออายุ จะสิ้นสุดลงพร้อมกัน

ภายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม รัฐสภายังจะสามารถรีบเร่งบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษีและการตัดลดงบประมาณรายจ่ายอัตโนมัติ 109,000 ล้านดอลลาร์สำหรับปีหน้า ซึ่งเป็นที่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ต่างต้องการหลีกเลี่ยงกันทั้งนั้น

มีสมาชิกรัฐสภาบางคนคาดหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงระยะสั้นกันภายในสัปดาห์นี้หรือหลังจากนั้นเล็กน้อย เพื่อจะได้เลี่ยงการต้องตัดลดงบประมาณรายง่ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงค่อยมาเจรจาทำข้อตกลงในเรื่องประเด็นระยะยาวกันในปีหน้าต่อไป

กระนั้น ข้อตกลงระยะสั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองฝ่าย ทว่า โอบามาประกาศแล้วว่า หากข้อตกลงใดๆ ก็ตามไม่มีการบรรจุมาตรการขึ้นภาษีกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดเอาไว้ด้วยแล้ว เขาก็จะใช้อำนาจยับยั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น