รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศให้การรับรองต่อกลุ่มกบฏในซีเรียในวันอังคาร (11) ถือเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนที่สุดครั้งแรกของรัฐบาลอเมริกัน ต่อสงครามกลางเมืองอันนองเลือดในซีเรีย ที่ยืดเยื้อมานานเกือบครบ 2 ปี
รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามา วัย 51 ปี ประกาศจุดยืนให้การรับรองต่อสภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด ให้มีสถานะเป็น “ผู้แทนที่ชอบธรรม” ของซีเรีย ในประชาคมระหว่างประเทศ
การประกาศรับรองต่อเอสเอ็นซี ส่งผลให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศล่าสุดของโลกต่อจากฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ตุรกี บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จอร์แดน และโมร็อกโกที่ประกาศให้การรับรองต่อเอสเอ็นซีอย่างเป็นทางการ และถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลโอบามาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อวิกฤตความขัดแย้งในซีเรีย หลังจากที่เคยประกาศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อฝ่ายกบฏในซีเรียแต่ไม่มีการอนุมัติความช่วยทางทหาร แม้จะมีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดในช่วงที่ผ่านมาว่า สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ได้แอบส่งผู้เชี่ยวชาญไปฝึกอาวุธให้นักรบฝ่ายกบฏในซีเรียอย่างลับๆ ก็ตาม
โอบามาเผยระหว่างให้สัมภาษณ์ผ่านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอบีซี นิวส์เมื่อวันอังคาร (11) โดยยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียเป็นองค์กรที่มีอำนาจครอบคลุมเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนอันชอบธรรมของประชาชนชาวซีเรียทั้งประเทศได้
การประกาศให้การรับรองต่อเอสเอ็นซีของโอบามามีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากรัฐบาลวอชิงตันเพิ่งขึ้นบัญชีดำแนวร่วม “อัล นุสรา” ในซีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์โดยระบุว่า แนวร่วมดังกล่าวอาจฉวยโอกาสเข้าครองอำนาจในซีเรีย หลังการล่มสลายของรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด
ท่าทีล่าสุดของผู้นำสหรัฐฯมีขึ้นขณะที่บรรดาผู้นำด้านการทหารนานาชาติกำลังพบหารือกันที่กรุงลอนดอนเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย โดยแหล่งข่าวทางการทูตในสหราชอาณาจักร เผยว่า บรรดาผู้แทนของชาติที่เข้าร่วมมีการหารือถึงแผนการฝึกอาวุธอย่างจริงจังให้กับฝ่ายกบฏในซีเรีย รวมถึงเตรียมให้การสนับสนุนทั้งทางอากาศและทางเรือต่อกลุ่มกบฏในการโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้เห็นพ้องกันในประเด็นที่ว่าจะไม่มีการส่งกองกำลังนานาชาติเข้าไปในซีเรียเพื่อช่วยล้มรัฐบาลอัสซาดโดยตรง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลซีเรียเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองในซีเรียขณะนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 42,000 คน ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยว่า ความขัดแย้งในซีเรียส่งผลให้มีผู้อพยพหนีภัยสงครามกระจัดกระจายไปอาศัยตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านของซีเรียแล้วมากกว่า 500,000 ราย