เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียระบุนิวเดลีต้องยอมรับอิทธิพลพญามังกรที่ขยายมาถึงสนามหลังบ้าน ขณะที่ปักกิ่งระดมผลักดันแนวทางการลงทุนและการทูตในเอเชียใต้ ชี้ยุทธศาสตร์ต่างประเทศใหม่คือการผสานความแข็งแกร่งของจีนกับอินเดียเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับศตวรรษแห่งเอเชียที่กำลังจะเกิดขึ้น
ที่ผ่านมาอินเดียระแวดระวังอิทธิพลของจีนรอบมหาสมุทรอินเดียมาตลอด เนื่องจากปักกิ่งเดินหน้าผูกสัมพันธ์กับศรีลังกา บังกลาเทศ มัลดีฟ และพม่า บ่อยครั้งผ่านการอัดฉีดเงินทุนและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (10) ซัลมาน คูร์ชิด รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวว่า อินเดียต้องยอมรับความจริงข้อใหม่ของการมีจีนปรากฏอยู่ในหลายๆ พื้นที่ที่อินเดียมองว่า เป็นสนามเด็กเล่นของตนเองและผองเพื่อน เช่น ในมหาสมุทรอินเดีย เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับศตวรรษแห่งเอเชียที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
คูร์ชิด วัย 59 ปี ได้รับแต่งตั้งคุมกระทรวงต่างประเทศเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางการคาดหวังว่า เขาจะนำแนวทางใหม่ๆ มาสู่ยุทธศาสตร์การทูตที่ดำเนินมาหลายทศวรรษและให้ความสำคัญกับการระแวดระวังมากกว่าความทะเยอทะยาน
คูร์ชิดสำทับว่า อินเดียจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนในรูปพันธมิตรที่มีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้
“จีนก้าวร้าวแต่ก็เป็นพันธมิตรและเป็นเพื่อนบ้านของเรา ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นจริงในนโยบายการต่างประเทศของอินเดียจะมุ่งที่การผสานความแข็งแกร่งของจีนกับอินเดียเข้าด้วยกัน”
ทั้งนี้ นิวเดลี-ปักกิ่งที่มีข้อพิพาทด้านพรมแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขนั้น มีความบาดหมางกันบ่อยครั้ง อีกทั้งยังไม่ไว้ใจกันและกันอันเป็นผลสืบทอดมาจากสงครามชายแดนช่วงสั้นๆ ในปี 1962
สัปดาห์ที่แล้ว ผู้บัญชาการกองทัพเรือแดนภารตะกล่าวว่า ความเข้มแข็งทางทะเลที่เพิ่มมากขึ้นของจีนเป็นปัจจัยหลักที่ต้องกังวล และนิวเดลีจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับสถานการณ์
จีนที่นำเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกเข้าประจำการในเดือนกันยายนนั้น มีข้อพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลจีนใต้หลายครั้งและกับหลายประเทศ ปักกิ่งยังเตือนนิวเดลีเรื่องการไปลงทุนในน่านน้ำดังกล่าว เนื่องจากปีที่ผ่านมา อินเดียได้ลงนามกับเวียดนามในการขยายการสำรวจน้ำมันในทะเลจีนใต้
ที่ผ่านมาอินเดียระแวดระวังอิทธิพลของจีนรอบมหาสมุทรอินเดียมาตลอด เนื่องจากปักกิ่งเดินหน้าผูกสัมพันธ์กับศรีลังกา บังกลาเทศ มัลดีฟ และพม่า บ่อยครั้งผ่านการอัดฉีดเงินทุนและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (10) ซัลมาน คูร์ชิด รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวว่า อินเดียต้องยอมรับความจริงข้อใหม่ของการมีจีนปรากฏอยู่ในหลายๆ พื้นที่ที่อินเดียมองว่า เป็นสนามเด็กเล่นของตนเองและผองเพื่อน เช่น ในมหาสมุทรอินเดีย เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับศตวรรษแห่งเอเชียที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
คูร์ชิด วัย 59 ปี ได้รับแต่งตั้งคุมกระทรวงต่างประเทศเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางการคาดหวังว่า เขาจะนำแนวทางใหม่ๆ มาสู่ยุทธศาสตร์การทูตที่ดำเนินมาหลายทศวรรษและให้ความสำคัญกับการระแวดระวังมากกว่าความทะเยอทะยาน
คูร์ชิดสำทับว่า อินเดียจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนในรูปพันธมิตรที่มีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้
“จีนก้าวร้าวแต่ก็เป็นพันธมิตรและเป็นเพื่อนบ้านของเรา ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นจริงในนโยบายการต่างประเทศของอินเดียจะมุ่งที่การผสานความแข็งแกร่งของจีนกับอินเดียเข้าด้วยกัน”
ทั้งนี้ นิวเดลี-ปักกิ่งที่มีข้อพิพาทด้านพรมแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขนั้น มีความบาดหมางกันบ่อยครั้ง อีกทั้งยังไม่ไว้ใจกันและกันอันเป็นผลสืบทอดมาจากสงครามชายแดนช่วงสั้นๆ ในปี 1962
สัปดาห์ที่แล้ว ผู้บัญชาการกองทัพเรือแดนภารตะกล่าวว่า ความเข้มแข็งทางทะเลที่เพิ่มมากขึ้นของจีนเป็นปัจจัยหลักที่ต้องกังวล และนิวเดลีจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับสถานการณ์
จีนที่นำเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกเข้าประจำการในเดือนกันยายนนั้น มีข้อพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลจีนใต้หลายครั้งและกับหลายประเทศ ปักกิ่งยังเตือนนิวเดลีเรื่องการไปลงทุนในน่านน้ำดังกล่าว เนื่องจากปีที่ผ่านมา อินเดียได้ลงนามกับเวียดนามในการขยายการสำรวจน้ำมันในทะเลจีนใต้