เอเอฟพี - ภาคเหนือของฟิลิปปินส์ต้องเผชิญฝนตกหนักและความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อไต้ฝุ่นบุปผาเคลื่อนตัวกลับเข้าสู่ฟิลิปปินส์อีกครั้งในวันนี้(9) หลังจากที่ซัดถล่มเกาะมินดาเนาจนมีผู้เสียชีวิตและสูญหายร่วม 1,400 คนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
แม้ไต้ฝุ่นบุปผาจะอ่อนกำลังจนกลายเป็นเพียงพายุโซนร้อน ทว่าอิทธิพลของมันก็ยังทำให้ภาคเหนือของเมืองตากาล็อกเกิดฝนตกหนัก ในขณะที่ความเสียหายทางภาคใต้ก็ยังต้องรอการฟื้นฟู
“มันจะทำให้มีฝนตกหนัก ส่วนลมอาจจะไม่แรงมากนัก และคาดว่าจะเกิดดินถล่มหรือน้ำท่วมฉับพลันด้วย พื้นที่ลุ่มต่ำคงจะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกระลอก” เบนิโต รามอส หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์ แถลง
หน่วยบรรเทาทุกข์และกู้ภัยท้องถิ่นได้ร่วมกับกองทัพเดินทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมแล้ว
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต 548 รายจากความรุนแรงของไต้ฝุ่นบุปผาที่ซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของเกาะมินดาเนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนสภาบรรเทาความเสี่ยงและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติมีรายงานว่า ยังมีผู้สูญหายอีกถึง 827 คน สูงกว่าที่ประเมินไว้ราว 500 คนก่อนหน้านี้
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเมืองบนเกาะมินดาเนา โดยเฉพาะในเขตภูเขาสูงที่ประชาชนหลั่งไหลเข้าไปลักลอบทำเหมืองทองคำ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีกไม่ต่ำกว่า 178,000 คนที่ต้องแออัดอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว เนื่องจากบ้านถูกลมพายุพัดพังเสียหาย
รามอส ชี้ว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในภาคใต้ทำให้ประชาชนทางภาคเหนือเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น
แม้พายุบุปผาจะอ่อนกำลังลง แต่ทางการยังประกาศเตือนภัยพายุระดับ 2 ใน 3 จังหวัดทางภาคเหนือ และระดับรองลงมาสำหรับพื้นที่ใกล้เคียง สำนักงานพยากรณ์อากาศของรัฐบาล แถลง
เช้าวันนี้(9) พายุบุปผาเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งเมือง Laoag ของฟิลิปปินส์ ด้วยความเร็วลมที่ศูนย์กลางราว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยกำลังเคลื่อนไปทางตะวันออกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง