เอเจนซีส์ - ไต้ฝุ่น “บุปผา” (Bopha) ซึ่งถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในปีนี้ ได้ขึ้นสู่ฝั่งเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของแดนตากาล็อกแล้วในวันอังคาร (4) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอาจจะถึง 50 คน ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น นอกจากนั้นยังทำให้ประชาชนกว่า 50,000 คนต้องอพยพไปยังที่พักพิงฉุกเฉิน
ไต้ฝุ่นบุปผาขึ้นฝั่งที่เกาะมินดาเนา เกาะใหญ่ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อเช้ามืดวันอังคาร ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงวัดความเร็วได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ต้นไม้โค่นและสายไฟฟ้าขาด เมื่อถึงช่วงบ่ายวันเดียวกัน สำนักงานพยากรณ์อากาศของรัฐบาลรายงานว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้อ่อนกำลังลง กระนั้นก็ยังมีลมแรงวัดความเร็วได้ถึง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วีนา อราเนตา นักข่าวของสถานีโทรทัศน์ เอบีเอส-ซีบีเอ็น ของฟิลิปปินส์ รายงานทางโทรศัพท์จากที่ทำการรัฐบาลในเมืองนิวบาตาน เมืองเล็กๆ บนเกาะมินดาเนาว่า เธอนับศพที่วางกองอยู่บนพื้นได้ 43 ศพ และลอเรนโซ บัลบิน นายกเทศมนตรีของเมืองนี้ บอกกับเธอว่า ผู้ตายจำนวนมากมาจากหมู่บ้านใกล้ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเสียหายหนักเมื่อเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยที่น้ำท่วมยังพัดถล่มฐานลาดตระเวนแห่งหนึ่งของกองทัพฟิลิปปินส์ในหมู่บ้านดังกล่าวด้วย
ทางด้านเจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่าย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบข้อมูล ได้รายงานเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 8 คน ตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่งบนเกาะมินดาเนา
เบนิโต รามอส ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน แถลงในตอนบ่ายว่า ไต้ฝุ่นเปลี่ยนเส้นทางและคาดว่า จะไปถึงเกาะโบฮอล เกาะนีกรอส และเกาะเซบู ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ในช่วงเย็นวันอังคาร ขณะที่สำนักงานพยากรณ์อากาศเสริมว่า ไต้หวันบุปผาจะพ้นจากฟิลิปปินส์และมุ่งหน้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันพฤหัสบดี (6)
ในแต่ละปี ฟิลิปปินส์จะเผชิญกับ ไต้ฝุ่น หรือพายุไซโคลนในเขตร้อน ไม่ต่ำกว่า 20 ลูก โดยที่มีผู้เสียชีวิตเป็นร้อยเป็นพันคน เช่น ปี 2011 ที่ผ่านมาซึ่งไต้ฝุ่นวาชิ คร่าชีวตผู้คน 1,500 รายในมินดาเนา
ไต้ฝุ่นบุปผาได้พัดหลังคาอาคารหลายแห่งปลิวหายไป ผู้พักอาศัยบริเวณชายฝั่งและชุมชนในพื้นที่ต่ำของมินดาเนาต่างอพยพไปยังศูนย์พักพิงเนื่องจากมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเผยว่า จนถึงช่วงเช้าวันอังคารมีผู้อพยพไปยังศูนย์พักพิงที่ทางการจัดไว้ให้เกือบ 1,000 แห่งถึงกว่า 53,000 คน
ในเวลาเดียวกัน เที่ยวบิน 145 เที่ยวซึ่งไปยังและออกจากมินดาเนาตลอดจนหมู่เกาะตอนกลางของประเทศ ต้องระงับการให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ (3) และผู้โดยสารเรือข้ามฟากกว่า 3,000 คนตกค้างเนื่องจากมีคำสั่งห้ามเรือออกจากท่า
