เอเอฟพี - ตำรวจออสเตรเลียออกค้นหาเด็กชาย วัย 9 ปี ซึ่งถูกจระเข้ลำตัวยาวถึง 4 เมตรงาบหายไปทางตอนเหนือของประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวดังกล่าวชาวบ้านในท้องที่คอยเลี้ยงดูให้อาหาร
เด็กชายรายนี้กำลังว่ายน้ำกับคนกลุ่มหนึ่งในชุมชนชาวเผ่าอะบอริจิน ใกล้พอร์ตแบรดชอว์ ของนอร์เทิร์น เทอร์ริทอรี ในวันเสาร์ (1) ที่ผ่านมา เมื่อถูกจระเข้ขนาดใหญ่งาบไป
เมื่อพวกผู้ใหญ่พยายามขว้างฉมวกแหลมเพื่อให้เจ้าเพชฌฆาตแห่งหนองน้ำปล่อยตัวเด็กชาย ทว่า มันกลับยิ่งลากเขาดำลึกลงไปในน้ำ และก็ไม่ปรากฏสัญญาณใดๆ จากเด็กคนดังกล่าวอีกเลยตั้งแต่นั้น
นี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่เด็กถูกจระเข้เขมือบครั้งที่ 2 หลังจากเด็กหญิงวัย 7 ขวบรายหนึ่งหายตัวไประหว่างว่ายน้ำกับครอบครัวเมื่อเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ทางตอนเหนือของออสเตรเลียเช่นเดียวกัน โดยผลจากการตามล่าจระข้ตัวหนึ่งก็พบชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ภายในท้องของมันด้วย ซึ่งเชื่อว่าเป็นเด็กหญิงผู้โชคร้ายรายนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจของนอร์เทิร์น เทอร์ริทอรีระบุว่า เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้เจ้าจระเข้ตัวต้นเหตุนั้นอยู่อาศัยใกล้กับชุมชนของชาวบ้านละแวกนั้นมานานหลายปีแล้ว และเชื่อว่ามันแก่มากแล้วด้วย
“บางครั้งพวกเขาก็โยนอาหารให้มัน หรือทิ้งซากปลาเอาไว้ให้ นั่นไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย” โฆษกตำรวจรายหนึ่งกล่าว และเสริมว่า “เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเราระบุว่าจระเข้ตัวนี้เป็นที่รู้จักของคนในชุมชนมานานถึง 20 ปีทีเดียว”
ตำรวจยังเผยว่า การออกค้นหาร่วมกันเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอาสาสมัครจำนวนหนึ่งในวันนี้ (3) ต้องยกเลิกไป โดยที่ไม่มีผู้ใดพบเห็นเจ้าจระเข้ตัวนี้ตลอด 2 วันที่ผ่านมาเลย
ทั้งนี้ จระเข้น้ำเค็มซึ่งสามารถโตได้ถึง 7 เมตร และหนักกว่า 1 ตัน เป็นสิ่งมีชีวิตที่พบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของออสเตรเลีย พวกมันได้รับการคุ้มครองในช่วงปี 1970 กระทั่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับจำนวนคนที่ประสบพบเจอ
อดัม บริตตัน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจระเข้ในเมืองดาร์วินกล่าวกับสถานีวิทยุเอบีซีว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีแผนควบคุมดูแลจระเข้ขึ้นใหม่ และควรที่จะดำเนินการมากกว่าแค่ย้ายสัตว์เหล่านั้นออกจากพื้นที่อันตรายเท่านั้น
