รอยเตอร์ - อิสราเอลวางแผนสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ 3,000 หลังคาเรือนให้กับผู้ตั้งรกรากในเขตเวสต์แบงก์ และนครเยรูซาเล็มตะวันออก เจ้าหน้าที่ยิวเผย โดยถือเป็นการท้าทายมติของสหประชาชาติ ที่โหวตรับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐอย่างท่วมท้น
เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูอนุมัติการก่อสร้างบ้านเรือน 3,000 หลัง และสั่งให้จัดการโซนนิ่งเบื้องต้น และวางแผนการทำงานในนครเยรูซาเล็ม และถิ่นฐานต่างๆ รวมถึง มาอาเล อาดูมิม และอี1
อิสราเอลเคยระงับกิจกรรมใดๆ ในเขตอี1 ไป โดยถูกกดดันจากอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และพื้นที่ดังกล่าวก็ยังถูกบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ คนต่อมาจับตาดูอย่างใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่ยิว ซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ ไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการของรัฐบาลแต่อย่างใด ทว่า สื่ออิสราเอลรายงานว่า รัฐบาลเตรียมขยายถิ่นฐานสร้างบ้านดังกล่าว เพื่อเป็นการประท้วงมติยกระดับสถานะของปาเลสไตน์จาก "มีตัวตนอยู่" เป็น "ประเทศผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก" ของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นในวันพฤหัสบดี (29) ที่ผ่านมา
อิสราเอล และสหรัฐฯ คัดค้านมติดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ปาเลสไตน์สิทธิในเวสต์แบงก์ เยรูซาเล็มตะวันออก และฉนวนกาซาได้ โดยชี้ว่า การแบ่งดินแดนดังกล่าวควรกำหนดขึ้นในเจรจาสันติภาพโดยตรง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรเพียงไม่กี่ประเทศของอิสราเอล ก็ตำหนิแผนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ของยิวว่า "ไม่สร้างสรรค์" โดยฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างระเทศสหรัฐฯ ได้ชี้ว่า วิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุดในการคุมเชิงฉนวนกาซาคือการสร้างสันติภาพที่ครอบคลุมระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์