เอเอฟพี - ที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดี(29) ลงมติอย่างท่วมท้นรับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐ ชัยชนะทางการทูตครั้งสำคัญของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แม้ถูกคัดค้านอย่างดุเดือดจากสหรัฐฯและอิสราเอล
193 ชาติสมาชิกของที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ ลงมติด้วยคะแนน 138 ต่อ 9 และงดออกเสียง 41 เสียง เปิดทางให้ปาเลสไตน์ สามารถเข้าร่วมในองค์กรต่างๆของสหประชาชาติและลงนามในสนธิสัญญานานาชาติได้
ก่อนหน้าที่สมัชชาใหญ่จะลงคะแนนโหวตขยับปาเลสไตน์จากจากผู้สังเกตการณ์ธรรมดา สู่การเป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ที่มิได้เป็นสมาชิก นายอับบาส ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าการลงมติครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายที่จะปกป้องการแก้ปัญหาโดยยึดหลักการดำรงอยู่ของสองรัฐเคียงคู่กัน(Two-State Solution)
ชาวปาเลสไตน์ ต่างออกมาเฉลิมฉลองทั้งในเขตเวสต์แบงค์และฉนวนกาซา บ้างก็ยิงปืนขึ้นสู่ท้องฟ้า เป่านกหวีด โอบกอดซึ่งกันและกัน ทันทีที่ทราบผลการโหวตรับรองของประชุมสหประชาชาติ ผิดกับทางฝั่งอิสราเอลและสหรัฐฯ 2 ใน 9 ชาติ ที่โหวตคัดค้านมติดังกล่าว ซึ่งต้องผิดหวังไปตามระเบียบ
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวก่อนหน้าการลงมติว่า "โลกเพิ่งได้เห็นการกล่าวสุนทรพจน์ที่หมิ่นประมาทและเคึยดแค้น และเต็มไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่ออันโป้ปดมดเท็จต่อกองทัพและพลเมืองอิสราเอล"
ด้านสหรัฐฯเตือนว่าการโหวตรับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี(29) จะกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล ชาติพันธมิตรผู้ใกล้ชิดกับวอชิงตัน
"เคราะห์ร้ายที่มติของวันนี้จะก่ออุปสรรคขัดขวางเส้นทางสู่สันติภาพเพิ่มเติม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมสหรัฐฯจึงโหวตต่อต้านมัน" ซูซาน ไรซ์ ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชายูเอ็น