เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผู้นำมาเลเซียออกโรงเตือนในวันพฤหัสบดี (29) ระบุ เศรษฐกิจอันก้าวหน้าของประเทศอาจถึงคราวต้องล่มสลายภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี หากบรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวเสือเหลือง ปล่อยให้พรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2013
รายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีโมฮัมหมัด นาจิบ อับดุล ราซัคแห่งมาเลเซียซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2009 กล่าวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรคอัมโน (United Malays National Organisation : UMNO) พรรคการเมืองใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย โดยผู้นำมาเลเซียวัย 59 ปีเน้นย้ำว่าความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษอาจถึงคราวต้องล่มสลายภายใน 3 ปี หากบรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งปล่อยให้พรรคฝ่ายค้านได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นายกรัฐมนตรีนาจิบเรียกร้องให้บรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งและผู้สนับสนุนพรรคอัมโน เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญหน้ากับการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในการเลือกตั้งที่มีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นดุเดือดที่สุด นับตั้งแต่ที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1957 เป็นต้นมา
“พวกเราต้องตัดสินใจว่า จะปล่อยให้ฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ รวมถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น ผมขอให้ทุกคนตระหนักถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการล่มสลายหากปล่อยให้ฝ่ายค้านได้เข้ามาบริหารประเทศ” นาจิบกล่าวพร้อมย้ำว่า ความอ่อนด้อยประสบการณ์และนโยบายหาเสียงที่เพ้อฝันของพวกฝ่ายค้านมีแต่จะทำให้หนี้ของประเทศพุ่งสูงขึ้น
ท่าทีล่าสุดของผู้นำมาเลเซีย มีขึ้นหลังจากที่พรรคอัมโนซึ่งเป็นแกนหลักของพรรคแนวร่วมแห่งชาติ หรือ “Barisan Nasional” ซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองต่างๆ 13 พรรคต้องประสบความพ่ายแพ้ในหลายพื้นที่ จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วในปี 2008 จนเป็นเหตุให้พรรครัฐบาลมาเลเซียไม่สามารถครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในรัฐสภาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา และถือเป็นผลการเลือกตั้งที่ย่ำแย่ที่สุดของพรรคอัมโนในรอบครึ่งศตวรรษ หลังคว้ามาได้เพียง 140 จาก 222 ที่นั่งในรัฐสภา ปล่อยให้ฝ่ายค้านคว้าที่นั่งได้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 82 ที่นั่ง