เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีราม บารัน ยาดาฟแห่งเนปาลออกโรงเตือนในวันจันทร์ (19) ให้บรรดากลุ่มก้อนทางการเมืองต่างๆ เร่งหาทางแก้ปัญหาวิกฤตด้านงบประมาณครั้งเลวร้ายของประเทศใน 3 วันข้างหน้าที่อาจส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกว่า 500,000 คนทั่วประเทศไม่ได้รับเงินเดือน พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรดานักการเมืองฝ่ายต่างๆ เร่งหาข้อสรุปเรื่องการจัดเลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของประธานาธิบดียาดาฟ วัย 64 ปีมีขึ้นหลังจากเนปาลต้องกลายเป็นประเทศที่ไม่มีรัฐสภา และไม่มีแม้กระทั่งรัฐบาลปกครองประเทศนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลชั่วคราวที่นำโดยกลุ่มการเมืองของฝ่ายกบฏนิยม “ลัทธิเหมา” ก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเรื่องจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่แต่เดิมคาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
วิกฤตทางการเมืองระลอกล่าสุดของเนปาลเกิดขึ้นหลังบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านประกาศจุดยืนที่จะไม่ให้ความร่วมมือใดๆกับการกำหนดวันเลือกตั้งครั้งใหม่ รวมถึงจะไม่ให้ความร่วมมือในการผ่านร่างงบประมาณของประเทศ หากนายกรัฐมนตรีบาบุรัม ภัตตาไร ที่มาจากกลุ่มนิยมลัทธิเหมายังดื้อดึงไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งทั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายต่างๆ
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เนปาลอยู่รอดมาได้ด้วยเงินจากกองทุนฉุกเฉินของประเทศ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า เงินกองทุนดังกล่าวได้หมดลงไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เป็นเหตุให้รัฐบาลเนปาลไม่มีเงินเหลือพอสำหรับจ่ายเงินเดือนให้กับครู ตำรวจ และทหารทั่วประเทศที่กำลังจะครบกำหนดจ่ายในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ หากบรรดานักการเมืองฝ่ายต่างๆ ยังไม่ยอมให้ความเห็นชอบต่อร่างงบประมาณฉบับใหม่ของประเทศ ขณะที่ตัวประธานาธิบดียาดาฟเองซึ่งปกติจะมีหน้าที่เฉพาะด้านพิธีการในฐานะประมุขของประเทศเท่านั้น ย้ำว่าตัวเขาจำเป็นต้องลงมาแทรกแซงการเมืองในครั้งนี้ แต่ขู่จะไม่ยอมลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่มูลค่า 450,000 ล้านรูปี (ราว 156,880 ล้านบาท) หากร่างฯ ดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากพรรคการเมืองต่างๆ
ล่าสุดมีรายงานว่า ประธานาธิบดียาดาฟระบุจะร้องขอให้มีการตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” เพื่อฝ่าทางตันทางการเมืองให้กับประเทศ หากพรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่อาจหันหน้าเข้าหากันภายในวันพฤหัสบดี (22) นี้