xs
xsm
sm
md
lg

สุดระทึก! “เอมิเรตส์” A380 เกิดเสียง “ระเบิด-แสงวาบ” กลางอากาศ ต้องวนกลับซิดนีย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอร์บัส เอ380 ของสายการบินเอมิเรตส์
เอเอฟพี - เครื่องบินแอร์บัส เอ380 ของสายการบินเอมิเรตส์ลำหนึ่งต้องหันหัวกลับสู่นครซิดนีย์กะทันหันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11) หลังผู้โดยสารได้ยินเสียงระเบิดและประกายไฟสีส้มสว่างวาบ สายการบินแถลงวันนี้ (12)

นักบินผู้ควบคุมเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งนำผู้โดยสาร 380 คนเดินทางจากนครซิดนีย์ไปยังปลายทางดูไบ ตัดสินใจนำเครื่องกลับไปลงสนามบินซิดนีย์อีกครั้ง เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

“สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK413 ปลายทางดูไบ ซึ่งออกเดินทางเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ย้อนกลับมาที่สนามบินอีกครั้งเนื่องจากประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง... เอมิเรตส์ขออภัยในความไม่สะดวกสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุด และไม่อาจละเลยได้” ถ้อยแถลงของสายการบินระบุ

แม็ตต์ แคมป์เบลล์ ผู้สื่อข่าวแฟร์แฟ็กซ์ซึ่งอยู่บนเครื่องบินลำนี้ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ซันเดย์ มอร์นิง เฮรัลด์ว่า ขณะเกิดเหตุเครื่องบินยังไต่ระดับความสูงอยู่

“หลังเครื่องเทกออฟไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ผมก็เห็นประกายไฟสีส้ม แล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่น จากนั้นเครื่องก็กระตุกอย่างแรง... พนักงานต้อนรับออกมาเดินทั่วไปหมด จากนั้นกัปตันก็ประกาศว่าเครื่องยนต์ตัวที่ 3 มีปัญหา และดับไปแล้ว”

โฆษกของเอมิเรตส์แถลงว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสืบหาต้นตอของเหตุระทึกขวัญครั้งนี้ และยอมรับว่าผู้โดยสารอาจได้ยินเสียงระเบิดและเห็นแสงสว่างวาบจริง

อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นี้ยืนยันว่า “ไม่มีควันหรือประกายไฟเกิดขึ้น” แม้ผู้โดยสารบางคนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่าพวกเขาเห็นไฟจริงๆ ก็ตาม

อามาล อาบูราวี ผู้โดยสารชาวอาหรับคนหนึ่งเผยต่อหนังสือพิมพ์ซิดนีย์ส เดลี เทเลกราฟ ว่า พนักงานต้อนรับของเอมิเรตส์ตื่นตระหนกยิ่งกว่าผู้โดยสารเสียอีก และโดยปกติแล้วสายการบินจะอ่านประกาศภาษาอังกฤษตามด้วยภาษาอาหรับเสมอ แต่ครั้งนี้กลับไม่แจ้งเหตุขัดข้องเป็นภาษาอาหรับ ทั้งที่บนเครื่องมีผู้โดยสารที่เป็นหญิงสูงวัยชาวอาหรับอยู่หลายคน

สายการบินแควนตัสของออสเตรเลียซึ่งเพิ่งทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนกับเอมิเรตส์ไปเมื่อไม่นานนี้ก็เคยประสบปัญหาเครื่องยนต์ เอ380 ระเบิดกลางอากาศเหนือน่านฟ้าอินโดนีเซีย ขณะเดินทางจากสิงคโปร์มายังนครซิดนีย์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เกิดจากความบกพร่องในขั้นตอนการผลิตซึ่งทำให้ท่อน้ำมันรั่ว
กำลังโหลดความคิดเห็น