เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลการศึกษาล่าสุดของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด สเตท (ซีเอสยู) ในสหรัฐฯ พบข้อมูลว่าสุนัขส่วนใหญ่ชื่นชอบเพลง “คลาสสิก” มากที่สุด ขณะที่การฟังเพลงหนักๆ อย่าง “เฮฟวี เมทัล” จะเพิ่มความเครียดในสุนัข
ศาสตราจารย์ลอรี โคแกน หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด สเตท เผยผลการศึกษาล่าสุดที่พบข้อมูลว่า บทเพลงแนวคลาสสิก เช่น ผลงานของนักประพันธ์ชื่อก้องอย่างโวล์ฟกัง อมาเดอุส โมซาร์ต และลุดวิก ฟาน บีโธเฟน สามารถช่วยลดความเครียดในสุนัขและช่วยให้พวกมันผ่อนคลายได้ดีกว่าบทเพลงแนวอื่นๆ รวมถึงได้ผลดีกว่าพวกบทเพลงจากซีดีที่อ้างว่าเป็นเพลงสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป
ศาสตราจารย์โคแกน พร้อมด้วยเพื่อนร่วมทีมของเธออีก 2 คน คือ เรจินา โชนเฟลด์-เทเชอร์ และแอลเลน เอ. ไซมอน สรุปว่า สุนัขก็มีความเครียดเหมือนกับมนุษย์และสัตว์อีกหลายชนิด แต่ความเครียดของสุนัขส่วนใหญ่มักเกิดจากการถูกทอดทิ้ง ถูกโดดเดี่ยวทางสังคม หรือการถูกจำกัด บังคับ ขู่เข็ญต่างๆ และความเครียดของสุนัขนี้เองที่สามารถพัฒนาไปสู่การมีปัญหาต่างๆทั้งทางร่างกายและพฤติกรรมของสุนัขได้ในระยะยาว ซึ่งการฟังเพลงที่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้ผลดีที่สุดในการลดความเครียดให้กับบรรดาน้องหมาทั้งหลาย
รายงานระบุว่า ทีมวิจัยได้ทำการเก็บข้อมูลด้านพฤติกรรมของสุนัขจากหลากหลายสายพันธุ์จำนวน 117 ตัว ณ คอกสุนัขแห่งหนึ่ง โดยทีมวิจัยได้ทำการทดลองหลายอย่างตลอดระยะเวลานานกว่า 4 เดือน โดยหนึ่งในวิธีทดลองที่ถูกนำมาใช้ คือ การเปิดเพลงให้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสุนัขฟังเป็นเวลา 45 นาที โดยในช่วงเวลาดังกล่าวทีมวิจัยจะเปิดเพลง 3 แนวให้สุนัขได้ฟัง และมีการบันทึกพฤติกรรมของพวกมันไว้ทุกๆ 5 นาที
โดยผลจากการเก็บข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำอีกของทีมวิจัยพบว่า เพลงคลาสสิกมีส่วนเชื่อมโยงในการช่วยลดทอนความเครียด และสร้างความผ่อนคลายให้กับสุนัขได้มากที่สุด ตรงข้ามกับเพลงแนว “เฮฟวี เมทัล” ซึ่งทีมวิจัยพบว่ามีส่วนกระตุ้นให้สุนัขเกิดความกังวล และแสดงอาการกระสับกระส่าย ขณะที่เพลงแนวฮิป-ฮอปและแร็ปทำให้สุนัขส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรม “อยู่ไม่สุข ซุกซน” มากขึ้น แต่ไม่ถึงขึ้นทำให้สุนัขเครียดและกระสับกระส่ายเหมือนกับเพลงแนวเฮฟวี เมทัล
อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยไม่สามารถสรุปได้ว่า มนุษย์ที่ชื่นชอบการฟังเพลงคลาสสิกจะมีระดับความเครียดลดลงเหมือนกับสุนัขที่ฟังเพลงคลาสสิกหรือไม่ แต่ทีมวิจัยแสดงความคาดหวังว่าผลการศึกษาของพวกเขาอาจถูกนำไปศึกษาวิจัยเพิ่มเติมและอาจก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับการผ่อนคลายความเครียด ทั้งในคนและสัตว์ชนิดอื่นๆ ได้ในอนาคต