รอยเตอร์ - ตำรวจปราบปรามก่อการร้ายอินโดนีเซียจับกุมผู้ต้องสงสัย 11 รายที่คาดว่ามีแผนลอบวางระเบิดสถานทูตสหรัฐฯ รวมถึงจตุรัสใกล้สถานทูตออสเตรเลีย และสำนักงานของบริษัทเหมือง Freeport-McMoran Copper&Gold โฆษกตำรวจแถลง วานนี้(27)
สุฮาร์ดี เอเลียส โฆษกตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ตำรวจปราบก่อการร้าย88 สามารถยึดอุปกรณ์ผลิตระเบิดและวัตถุระเบิดที่พร้อมใช้งานอีก 1 ลูกจากเครือข่าย ฮาราเกาะห์ ซุนนี เพื่อสังคมอินโดนีเซีย (HASMI) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ก่อตั้งใหม่
การจับกุมผู้ต้องสงสัยบนเกาะชวาครั้งนี้ถือเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลอินโดนีเซียที่จะกวาดล้างกลุ่มก่อความไม่สงบในประเทศ หลังจากที่จับกุมได้แล้วหลายสิบราย และวิสามัญไปอย่างน้อย 7 ศพ
“เราพบหลักฐานชิ้นแรกในอาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งในเมืองมาดิอุน (บนเกาะชวา) ประกอบด้วยระเบิดที่พร้อมใช้งาน วัตถุดิบที่ใช้ทำระเบิด รวมถึงคู่มือผลิตระเบิดด้วย” เอเลียส ระบุ
โฆษกตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียยังไม่เผยรายละเอียดเกี่ยวกับเครือข่ายก่อการร้ายกลุ่มนี้ แต่ระบุสถานที่เป้าหมายของพวกเขา เช่น สถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองสุราบายา จังหวัดชวาตะวันออก, สถานทูตสหรัฐฯในกรุงจาการ์ตา, จตุรัส 89 ในกรุงจาการ์ตาซึ่งอยู่หน้าสถานทูตออสเตรเลีย และสำนักงานอีกหลายแห่งของบริษัทเหมืองฟรีพอร์ท
กลุ่ม HASMI ยังมีแผนโจมตีหน่วยตำรวจเคลื่อนที่ในเมืองซรอนดอล ทางตอนกลางของเกาะชวา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในกรุงวอชิงตันแถลงผ่านอีเมลไปยังรอยเตอร์ว่า “เราทราบรายงานทั้งหมดแล้ว แต่ยังให้ความเห็นไม่ได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของตำรวจอินโดนีเซีย”
ด้านโฆษกหญิงประจำกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯก็ออกมาระบุว่า ยังไม่ได้รับคำร้องขอจากกระทรวงต่างประเทศให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานทูตในกรุงจาการ์ตา
การวางระเบิดไนท์คลับ 2 แห่งบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ซึ่งเกิดขึ้นหลังเหตุวินาศกรรม 9/11 ในสหรัฐฯเพียง 1 ปี ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีพลเมืองมุสลิมมากที่สุดในโลก โดยทำให้รัฐบาลอิเหนาหันมาปราบปรามกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายอัลกออิดะห์ที่วางแผนโจมตีชาวต่างชาติและทรัพย์สินของตะวันตกอย่างจริงจัง