“แซนดี” เคลื่อนตัวช้ามุ่งหน้าชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ หวั่นทวีกำลังเป็น “ซูเปอร์สตอร์ม”

รอยเตอร์ - เฮอริเคน “แซนดี” พัดออกห่างบาฮามาสแล้วในวันนี้ (27) หลังจากที่คร่าชีวิตผู้คนแถบแคริบเบียนไปไม่ต่ำกว่า 41 ราย และเริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ซึ่งมีทีท่าว่าจะกลายเป็น 1 ในพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี

พายุปลายฤดูมรสุมลูกนี้ ได้อีกชื่อจากผู้สังเกตการสภาพอากาศว่า "แฟรงเกนสตอร์ม" เนื่องด้วยเป็นการก่อตัวรวมกันระหว่างพายุไซโคลนเขตร้อน และพายุฤดูหนาว โดยโมเดลพยากรณ์อากาศแสดงให้เห็นว่าเฮอริเคนแซนดีจะกลายเป็น "ซูเปอร์สตอร์ม" ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐฯ ประกาศภวาะฉุกเฉิน ในวันศุกร์ (26) ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งเร้าให้ประชาชนกักตุนอาหาร น้ำ และแบตเตอรีสำรองเอาไว้ เผื่อกรณีที่พายุก่อตัวขึ้นเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

ด้านกองทัพเรือแดนอินทรีสั่งการให้เรือทั้งหมดในนอร์โฟล์ก รัฐเวอร์จิเนีย รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ออกเดินทะเล เพื่อฝ่าพายุที่กำลังมุ่งหน้าเข้าแผ่นดินใหญ่

ด้านลูอิส ยุสเซลลินี ผู้อำนวยการศูนย์คาดการณ์สิ่งแวดล้อม ของสำนักบริหารมหาสมุทร และบรรยากาศแห่งชาติ ชี้ว่า พายุที่กำลังจะพัดเข้าถล่มสหรัฐฯ นั้นน่าจะใหญ่มากๆ กินพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ทางตะวันออกของสหรัฐฯ ทีเดียว หากเคลื่อนตัวถึงชายฝั่งแล้ว

แซนดี เฮอริเคนระดับ 1 พัดถล่มบาฮามาส ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฟลอริดาในวันศุกร์ โดยคาดว่าจะค่อยๆ คืบคลานไปทางเหนือ ในวันเสาร์ และอาทิตย์ จากนั้นจึงวกกลับสู่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ซึ่งตามทิศทางในปัจจุบัน พายุลูกนี้น่าจะขึ้นฝั่งในคืนวันจันทร์ (29) หรือวันอังคาร (30) บริเวณตั้งแต่นอร์ทแคโรไลนา ไปถึงนิวอิงแลนด์ทางใต้

ความรุนแรงของเฮอริเคนแซนดีอาจทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง น้ำท่วมฉับพลัน หรือแม้แต่ทำให้หิมะตกในพื้นที่อย่างเวสต์เวอร์จิเนีย ตลอดจนส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศทั้งหมดในพื้นที่อีสต์โคสต์

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า แซนดีอยู่ห่างจากชายฝั่งมลรัฐเซาท์แคโรไลนาไปประมาณ 600 กิโลเมตร ในเช้าวันนี้ ด้วยความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนที่อย่างช้าด้วยความเร็ว 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก่อนโหมรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคน ระดับ 1 อีกครั้ง บริเวณทะเลเปิด ในวันอาทิตย์ (28)