ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อกล่าวถึง “ทำเนียบขาว” หรือ “White House” ทุกท่านย่อมทราบดีว่า หมายถึง บ้านพักอย่างเป็นทางการรวมถึงสถานที่ปฏิบัติงานของผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และปฏิเสธไม่ได้ว่าทำเนียบขาว ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 1600ถนนเพนน์ซิลเวเนีย แอฟเวนิว ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของอำนาจและอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ถูกใช้เป็นที่พำนักของผู้นำเมืองลุงแซมทุกคนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับตั้งแต่ นายจอห์น อดัมส์ ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของสหรัฐฯ เป็นต้นมา
และหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2012 ในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ตามเวลาในสหรัฐฯซึ่งตรงกับวันที่ 7 พฤศจิกายนตามเวลาประเทศไทยจบสิ้นลง ทุกท่านก็จะได้ทราบว่า ผู้ที่จะได้เข้ามาอยู่ในทำเนียบขาวแห่งนี้จะเป็นใคร ระหว่าง “เจ้าถิ่นหน้าเดิม” อย่างประธานาธิบดี “บารัค ฮุสเซน โอบามาที่ 2” วัย 51 ปี จากพรรคเดโมแครต หรือจะเป็นประธานาธิบดี “ใหม่เอี่ยมถอดด้าม” นามว่า วิลลาร์ด มิตต์ รอมนีย์ วัย 65 ปี แห่งพรรค “ตราช้าง” รีพับลิกัน ที่เคยมีดีกรีเป็นอดีตผู้ว่าการมลรัฐแมสซาชูเซ็ตต์สและผู้บริหารสถาบันการเงินในวอลล์สตรีทมาก่อน
อย่างไรก็ดี ทราบกันหรือไม่ว่าบนโลกอันกว้างใหญ่ของเราใบนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างที่ถูกขนานนามว่า “White House”อีกหลายแห่ง ในหลายทวีป ที่พร้อมจะเปิดประตูต้อนรับประชาชนคนธรรมดา (แต่ต้องกระเป๋าหนัก) ให้สามารถเข้าไปเช่าพักค้างคืนใน “White House”ได้ โดยที่คุณไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนลงแรงหาเสียงให้เหนื่อย ยากเหมือนอย่างโอบามา และรอมนีย์
ทำเนียบขาวแห่งแรก ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถเข้าพักได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีชื่อว่า “Provo Beach House” ตั้งอยู่บนเกาะ “โพรวิเดนเชียลส์” ในหมู่เกาะ “เติร์กส์ แอนด์ เคคอส” ดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักรกลางทะเลแคริบเบียน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของหาดทราย (เจ้าของรางวัลชายหาดที่ดีที่สุดของโลกประจำปี 2011 จากการจัดอันดับโดย “TripAdvisor ”)และเป็นจุดหมายปลายทางของนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลก โดยผู้ที่สนใจจะเข้าพัก ณ ทำเนียบขาวแห่งนี้จะต้องติดต่อขอจองแบบเหมาเป็นสัปดาห์ด้วยสนนราคาเริ่มต้นที่ 5,600-9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 172,000 - 276,500 บาท) ต่อสัปดาห์
“White House” แห่งต่อมา มีชื่อว่า “Forest Beach Mansion” ตั้งอยู่ที่ฟอเรสต์ บีช บน เกาะฮิลตัน เฮด ในเขตโบฟอร์ต เคาน์ตี มลรัฐเซาธ์ แคโรไลนาของสหรัฐฯ โดยบ้านพักตากอากาศสีขาวนวลแห่งนี้หันหน้าออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และถือเป็นหนึ่งในสถานตากอากาศที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุดของสหรัฐฯ แต่ผู้ที่สนใจเข้าพัก ณ
ฟอเรสต์ บีช แมนชันที่ว่านี้ จะต้องยอมจ่ายค่าเช่าซึ่งกำหนดไว้ที่ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 199,700บาท) ต่อสัปดาห์
ทำเนียบขาวแห่งที่ 3 คือ “Captiva Island Estate” ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะแคปติวา ในท้องที่ลี เคาน์ตี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมลรัฐฟลอริดา ไม่ไกลจากอ่าวเม็กซิโก โดยมีตำนานเล่าขานว่า เกาะแห่งนี้เคยถูก โฆเซ กัสปาร์ หรือ “กัสปาริญา” โจรสลัดชาวสเปน ใช้เป็นสถานที่ลักพาตัวหญิงสาวมากหน้าหลายตา มากักขังไว้เพื่อเรียกค่าไถ่รวมถึงเพื่อ “บำเรอกาม” และหากผู้ใดต้องการเข้าพัก ณ “Captiva Island Estate” บนเกาะโจรสลัดแห่งนี้ก็จะต้องยอมจ่ายค่าเช่าที่สูงลิ่วถึงสัปดาห์ละ 16,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 491,600บาท) เลยทีเดียว
ที่พักลำดับที่ 4 ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทำเนียบขาว” เช่นเดียวกัน คือ “Outer Banks Cottage” ณ เซาเธิร์น ชอร์สในเขตแดร์ ของมลรัฐนอร์ธ แคโรไลนา โดยบ้านพักสีขาวหลังใหญ่ที่อยู่ประชิดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าพักต้องยอมจ่ายค่าเช่าราว 1,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 41,500 บาท)ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นค่าเช่าที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับ “White House” แห่งอื่นๆ
“White House” ลำดับที่ 5 ซึ่งใช้ชื่อว่า “Portsmouth Property” ก็ยังคงตั้งอยู่ในสหรัฐฯเช่นกัน โดยคฤหาสน์หลังงามแห่งนี้ที่เจ้าของระบุว่า ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากทำเนียบขาวของผู้นำสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นั้น ตั้งอยู่ในเมืองขนาดเล็กที่เงียบสงบ อย่างเมืองพอร์ทสมัธ ในมลรัฐโร้ด ไอส์แลนด์ และมีสระว่ายน้ำกับสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการอย่างครบครัน แต่ต้องแลกกับค่าเช่าแพงระงับที่ “คืนละ” 1,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 35,300บาท)
บ้านพักแห่งต่อมาที่ถูกยกให้เป็น “ทำเนียบขาว” เช่นกัน มีชื่อว่า “Boise Getaway” ที่ตั้งอยู่ในเมืองบอยซี เมืองหลวงของมลรัฐไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา โดยบ้านพักหลังงามที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาแห่งนี้แม้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวมากนัก แต่เจ้าของยืนยันว่า บ้านพักของเขาถือเป็น “สวรรค์สำหรับผู้รักความเงียบสงบ” อย่างแท้จริง ส่วนค่าเช่าตกอยู่ที่คืนละ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 9,200 บาท)
และหากพูดถึงประเทศคอสตาริกา หลายท่านคงนึกถึงป่าดงดิบเขตร้อน ภูเขาไฟ จระเข้อันดุร้ายและแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่ใครจะไปคาดคิดว่า ณ เมืองท่าซิวดาด เด ปุนตาเรนัส ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของคอสตาริกานี้ จะเป็นที่ตั้งของบ้านพักที่ถูกขนานนามว่าเป็น “White House” อีกแห่งหนึ่งของโลก นั่นคือ “Costa Rica Beach Home” และว่ากันว่าบ้านพักสีขาวอันโด่งดังที่ซุกตัวอยู่กลางผืนป่าแห่งภูมิภาคอเมริกากลางแห่งนี้เป็นสถานที่ตากอากาศที่มหาเศรษฐีทั่วโลกต่างต้องการเข้าพักสักครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นเหตุให้คิวจองยาวเหยียดข้ามปี แม้ต้องเผชิญ “ค่าเช่ามหาโหด” ตกอยู่ที่คืนละ 1,020-1,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 31,300-45,000 บาท) ก็ตาม
ปิดท้ายด้วยสถานที่ที่ถูกยกให้เป็น “White House” แห่งสุดท้าย แต่เป็นเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป นั่นคือ “Santorini Island Villa” บ้านพักสีขาวหลังงามบนเกาะซานโตรินี หรือเกาะธีราของกรีซ ที่อยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของกรีซราว 200 กิโลเมตร และเนื่องจากกรีซกำลังเผชิญกับวิกฤตหนี้สินครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ราคาค่าเช่าของวิลล่าสุดหรูแห่งนี้ จึงปรับลดลงมาเหลือประมาณ 411-668 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 12,600- 20,515 บาท) ต่อคืน จากที่เคยสูงกว่าคืนละ 800 ดอลลาร์เมื่อช่วงก่อนที่กรีซจะประสบวิกฤต
ดังนั้น จึงไม่ผิดนักหากจะสรุปว่า แม้คุณจะไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่คุณก็ยังพอมีโอกาสได้เข้าพักยัง “White House” หลังงามอีกหลายแห่งทั่วโลกที่รอคุณอยู่ ขอเพียงแค่คุณมี “เงิน” แต่ถ้าหากคุณไม่มีทั้ง “อำนาจ” และ “เงิน”ก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจแต่อย่างใด ขอแค่เพียงให้คุณได้นั่งลุ้นนอนลุ้นเกาะกระแสเลือกตั้ง “ผู้นำทำเนียบขาว” อยู่บนผืนแผ่นดินไทย มาตุภูมิอันแสนประเสริฐและอุดมสมบูรณ์ของเราแห่งนี้ ก็น่าจะเพียงพอ และเป็นที่น่าอิจฉาของหลายต่อหลายคนแล้ว มิใช่หรือ?
และหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2012 ในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ตามเวลาในสหรัฐฯซึ่งตรงกับวันที่ 7 พฤศจิกายนตามเวลาประเทศไทยจบสิ้นลง ทุกท่านก็จะได้ทราบว่า ผู้ที่จะได้เข้ามาอยู่ในทำเนียบขาวแห่งนี้จะเป็นใคร ระหว่าง “เจ้าถิ่นหน้าเดิม” อย่างประธานาธิบดี “บารัค ฮุสเซน โอบามาที่ 2” วัย 51 ปี จากพรรคเดโมแครต หรือจะเป็นประธานาธิบดี “ใหม่เอี่ยมถอดด้าม” นามว่า วิลลาร์ด มิตต์ รอมนีย์ วัย 65 ปี แห่งพรรค “ตราช้าง” รีพับลิกัน ที่เคยมีดีกรีเป็นอดีตผู้ว่าการมลรัฐแมสซาชูเซ็ตต์สและผู้บริหารสถาบันการเงินในวอลล์สตรีทมาก่อน
อย่างไรก็ดี ทราบกันหรือไม่ว่าบนโลกอันกว้างใหญ่ของเราใบนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างที่ถูกขนานนามว่า “White House”อีกหลายแห่ง ในหลายทวีป ที่พร้อมจะเปิดประตูต้อนรับประชาชนคนธรรมดา (แต่ต้องกระเป๋าหนัก) ให้สามารถเข้าไปเช่าพักค้างคืนใน “White House”ได้ โดยที่คุณไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนลงแรงหาเสียงให้เหนื่อย ยากเหมือนอย่างโอบามา และรอมนีย์
ทำเนียบขาวแห่งแรก ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถเข้าพักได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีชื่อว่า “Provo Beach House” ตั้งอยู่บนเกาะ “โพรวิเดนเชียลส์” ในหมู่เกาะ “เติร์กส์ แอนด์ เคคอส” ดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักรกลางทะเลแคริบเบียน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของหาดทราย (เจ้าของรางวัลชายหาดที่ดีที่สุดของโลกประจำปี 2011 จากการจัดอันดับโดย “TripAdvisor ”)และเป็นจุดหมายปลายทางของนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลก โดยผู้ที่สนใจจะเข้าพัก ณ ทำเนียบขาวแห่งนี้จะต้องติดต่อขอจองแบบเหมาเป็นสัปดาห์ด้วยสนนราคาเริ่มต้นที่ 5,600-9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 172,000 - 276,500 บาท) ต่อสัปดาห์
“White House” แห่งต่อมา มีชื่อว่า “Forest Beach Mansion” ตั้งอยู่ที่ฟอเรสต์ บีช บน เกาะฮิลตัน เฮด ในเขตโบฟอร์ต เคาน์ตี มลรัฐเซาธ์ แคโรไลนาของสหรัฐฯ โดยบ้านพักตากอากาศสีขาวนวลแห่งนี้หันหน้าออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และถือเป็นหนึ่งในสถานตากอากาศที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุดของสหรัฐฯ แต่ผู้ที่สนใจเข้าพัก ณ
ฟอเรสต์ บีช แมนชันที่ว่านี้ จะต้องยอมจ่ายค่าเช่าซึ่งกำหนดไว้ที่ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 199,700บาท) ต่อสัปดาห์
ทำเนียบขาวแห่งที่ 3 คือ “Captiva Island Estate” ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะแคปติวา ในท้องที่ลี เคาน์ตี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมลรัฐฟลอริดา ไม่ไกลจากอ่าวเม็กซิโก โดยมีตำนานเล่าขานว่า เกาะแห่งนี้เคยถูก โฆเซ กัสปาร์ หรือ “กัสปาริญา” โจรสลัดชาวสเปน ใช้เป็นสถานที่ลักพาตัวหญิงสาวมากหน้าหลายตา มากักขังไว้เพื่อเรียกค่าไถ่รวมถึงเพื่อ “บำเรอกาม” และหากผู้ใดต้องการเข้าพัก ณ “Captiva Island Estate” บนเกาะโจรสลัดแห่งนี้ก็จะต้องยอมจ่ายค่าเช่าที่สูงลิ่วถึงสัปดาห์ละ 16,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 491,600บาท) เลยทีเดียว
ที่พักลำดับที่ 4 ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทำเนียบขาว” เช่นเดียวกัน คือ “Outer Banks Cottage” ณ เซาเธิร์น ชอร์สในเขตแดร์ ของมลรัฐนอร์ธ แคโรไลนา โดยบ้านพักสีขาวหลังใหญ่ที่อยู่ประชิดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าพักต้องยอมจ่ายค่าเช่าราว 1,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 41,500 บาท)ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นค่าเช่าที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับ “White House” แห่งอื่นๆ
“White House” ลำดับที่ 5 ซึ่งใช้ชื่อว่า “Portsmouth Property” ก็ยังคงตั้งอยู่ในสหรัฐฯเช่นกัน โดยคฤหาสน์หลังงามแห่งนี้ที่เจ้าของระบุว่า ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากทำเนียบขาวของผู้นำสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นั้น ตั้งอยู่ในเมืองขนาดเล็กที่เงียบสงบ อย่างเมืองพอร์ทสมัธ ในมลรัฐโร้ด ไอส์แลนด์ และมีสระว่ายน้ำกับสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการอย่างครบครัน แต่ต้องแลกกับค่าเช่าแพงระงับที่ “คืนละ” 1,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 35,300บาท)
บ้านพักแห่งต่อมาที่ถูกยกให้เป็น “ทำเนียบขาว” เช่นกัน มีชื่อว่า “Boise Getaway” ที่ตั้งอยู่ในเมืองบอยซี เมืองหลวงของมลรัฐไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา โดยบ้านพักหลังงามที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาแห่งนี้แม้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวมากนัก แต่เจ้าของยืนยันว่า บ้านพักของเขาถือเป็น “สวรรค์สำหรับผู้รักความเงียบสงบ” อย่างแท้จริง ส่วนค่าเช่าตกอยู่ที่คืนละ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 9,200 บาท)
และหากพูดถึงประเทศคอสตาริกา หลายท่านคงนึกถึงป่าดงดิบเขตร้อน ภูเขาไฟ จระเข้อันดุร้ายและแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่ใครจะไปคาดคิดว่า ณ เมืองท่าซิวดาด เด ปุนตาเรนัส ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของคอสตาริกานี้ จะเป็นที่ตั้งของบ้านพักที่ถูกขนานนามว่าเป็น “White House” อีกแห่งหนึ่งของโลก นั่นคือ “Costa Rica Beach Home” และว่ากันว่าบ้านพักสีขาวอันโด่งดังที่ซุกตัวอยู่กลางผืนป่าแห่งภูมิภาคอเมริกากลางแห่งนี้เป็นสถานที่ตากอากาศที่มหาเศรษฐีทั่วโลกต่างต้องการเข้าพักสักครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นเหตุให้คิวจองยาวเหยียดข้ามปี แม้ต้องเผชิญ “ค่าเช่ามหาโหด” ตกอยู่ที่คืนละ 1,020-1,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 31,300-45,000 บาท) ก็ตาม
ปิดท้ายด้วยสถานที่ที่ถูกยกให้เป็น “White House” แห่งสุดท้าย แต่เป็นเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป นั่นคือ “Santorini Island Villa” บ้านพักสีขาวหลังงามบนเกาะซานโตรินี หรือเกาะธีราของกรีซ ที่อยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของกรีซราว 200 กิโลเมตร และเนื่องจากกรีซกำลังเผชิญกับวิกฤตหนี้สินครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ราคาค่าเช่าของวิลล่าสุดหรูแห่งนี้ จึงปรับลดลงมาเหลือประมาณ 411-668 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 12,600- 20,515 บาท) ต่อคืน จากที่เคยสูงกว่าคืนละ 800 ดอลลาร์เมื่อช่วงก่อนที่กรีซจะประสบวิกฤต
ดังนั้น จึงไม่ผิดนักหากจะสรุปว่า แม้คุณจะไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่คุณก็ยังพอมีโอกาสได้เข้าพักยัง “White House” หลังงามอีกหลายแห่งทั่วโลกที่รอคุณอยู่ ขอเพียงแค่คุณมี “เงิน” แต่ถ้าหากคุณไม่มีทั้ง “อำนาจ” และ “เงิน”ก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจแต่อย่างใด ขอแค่เพียงให้คุณได้นั่งลุ้นนอนลุ้นเกาะกระแสเลือกตั้ง “ผู้นำทำเนียบขาว” อยู่บนผืนแผ่นดินไทย มาตุภูมิอันแสนประเสริฐและอุดมสมบูรณ์ของเราแห่งนี้ ก็น่าจะเพียงพอ และเป็นที่น่าอิจฉาของหลายต่อหลายคนแล้ว มิใช่หรือ?