น้ำมัน-หุ้นมะกันทรงตัว ทองคำขยับลง จากข้อมูล ศก.สหรัฐฯ และจีน

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กขยับลง และวอลล์สตรีท ทรงตัววานนี้ (20) จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่ากังวลในจีน ยุโรป และสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยนี้ก็ส่งผลให้ราคาทองคำปิดลบเล็กน้อย

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 11 เซ็นต์ ปิดที่ 91.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สัปดาห์นี้ น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ดิ่งลงรวมแล้วราวๆ 9 ดอลลาร์ จากข้อมูลของทางการที่เผยให้เห็นถึงคลังน้ำมันดิบสำรองที่เพิ่มขึ้นของอเมริกา บ่งชี้ถึงอุปสงค์ทางพลังงานที่อ่อนแอในชาติผู้บริโภครายใหญ่

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันนิวยอร์กในวันพฤห้สบดี (20) ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ระบุว่าภาคการผลิตในจีนและยุโรปยังคงประสบปัญหา

ปัจจัยดังกล่าว ประกอบข้อมูลทางเศรษฐกิจอันน่ากังวลของสหรัฐฯ ก็ฉุดให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้ (20) ปิดในกรอบแคบๆ ท่ามกลางความคึกคักต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของเฟด ที่ค่อยๆ ถูกกลบกระแสไป

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 19.20 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,597.16 จุด แนสแดค ลดลง 6.66 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,175.96 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.78 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,460.27 จุด

วอลล์สตรีท แกว่งตัวตามตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปที่ปิดลบอย่างแรงไปก่อนหน้านี้ หลังดัชนีการจัดซื้อภาคโรงงานเผยให้เห็นถึงการหดตัวในกิจกรรมภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองทวีป

นอกจากนี้แล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกฉุดด้วยหุ้นของ เจซี เพนนี ที่ดิ่งลงถึง 11.2 เปอร์เซ็นต์ หลังซีอีโอของบริษัทค้าปลีกแห่งนี้ เตือนว่ายอดขายของบริษัทอาจอ่อนแอไปจนถึงสิ้นปี

ทั้งนี้ ตัวเลขทางเศรษฐกิจอันอ่อนแอทั้งหลายแหล่ ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (20) ขยับลงเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.50 ดอลลาร์ (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,770.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์