เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้(10) ขยับขึ้น หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในสหรัฐฯและจีน เพิ่มความหวังว่าสองชาติผู้บริโภครายใหญ่จะลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่วอลล์สตรีทและทองคำ ปิดลบในกอบแคบๆ จากการขายทำกำไรของนักลงทุน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ ปิดที่ 96.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 114.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แอดดินสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากเทรดิชัน เอเนอร์จี กล่าวว่า "รายงานตัวเลขคนว่างงานที่ย่ำแย่ของสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(7) ประกอบกับข้อมูลการค้าที่น่าผิดหวังของจีนคือปัจจัยหลังที่ส่งเสริมราคาน้ำมัน ด้วยเครื่องบ่งชี้ทางลบนี้ก่อความหวังในหมู่นักลงทุนว่าทั้งสองชาติจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม"
ราคาน้ำมันขยับขึ้นแม้พบว่ายอดการนำเข้าน้ำมันดิบของจีน ประจำเดือนสิงหาคม ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2010
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(10) ปิดลบในกรอบแคบๆ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นอย่างแรงในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกันก็ยังรอดูท่าทีของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) กลางสัปดาห์นี้ ว่าจะส่งสัญญาณสนับสนุนเศรษฐกิจอันเปราะบางอย่างไรบ้าง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 51.80 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,254.84 จุด แนสแดค ลดลง 32.40 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,104.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.76 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,429.16 จุด
เหล่านักวิเคราะห์ของชาร์ลส์ ชวาบ แอนด์ โค ระบุว่าการซื้อขายวานนี้(10) เป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนหน้าผลสรุปของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันพฤหัสบดีนี้(13) ขณะที่ข้อมูลภาคแรงงานภายในประเทศที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(7) เพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามปัจจัยเกี่ยวกับข้อมูลภาคแรงงานอันอ่อนแอของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่ถือครองไว้เพื่อทำกำไรและเป็นเหตุราคาทองคำวานนี้(10) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 7.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,732.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์