รอยเตอร์ - กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นยืนยันความปลอดภัยของเครื่องบินไฮบริด เอ็มวี-22 ออสเปรย์ ซึ่งกำลังเป็นปมขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น และอนุญาตให้ใช้ปฏิบัติภารกิจในแดนอาทิตย์อุทิตย์ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแถลง วันนี้ (19)
สหรัฐฯต้องการนำ วี-22 ออสเปรย์ ซึ่งเป็นเครื่องบินชนิดปรับใบพัด (tilt-rotor) ที่สามารถขึ้นลงแนวดิ่งได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์มาใช้งานบนเกาะโอกินาวา ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากชาวบ้านที่ยังไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยของอากาศยานประเภทนี้ เนื่องจากเคยมีประวัติเกิดอุบัติเหตุมาแล้วถึง 2 ครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ซาโตชิ โมริโมโตะ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น แถลงว่า จากการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้ง พบว่า เครื่องบินออสเปรย์มีความปลอดภัย และสหรัฐฯ จะนำเข้าไปใช้งานในญี่ปุ่น เดือนตุลาคมนี้
“เรายืนยันว่าอุบัติเหตุทั้งสองครั้งมีสาเหตุจากมนุษย์เป็นหลัก และไม่พบความขัดข้องด้านระบบ หรือปัญหาเทคนิคใดๆในตัวเครื่องบิน” โมริโมโตะ ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศ โคอิจิโร เก็มบะ
“เราขอยืนยันว่าเครื่องบินออสเปรย์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยจริง และเมื่อพิจารณาถึงประโยชน์สูงสุดที่สังคมจะได้รับ เราจึงตัดสินใจอนุญาตให้สหรัฐฯ นำเข้ามาใช้งานได้”
เดือนเมษายนที่ผ่านมา ออสเปรย์ลำหนึ่งประสบอุบัติเหตุตกที่โมร็อกโก ทำให้นาวิกโยธินสหรัฐฯ เสียชีวิต 2 นาย ต่อมาในเดือนมิถุนายน อากาศยานไฮบริดรุ่นนี้อีกลำหนึ่งก็ร่วงโหม่งโลกที่รัฐฟลอริดา จนมีผู้บาดเจ็บไป 5 คน
นาวิกโยธินและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวม 30 นายต้องสังเวยชีวิตจากอุบัติเหตุระหว่างการบินทดสอบเครื่องบินรุ่นนี้ ในช่วงปี 1991-2000
เอ็มวี-22 ออสเปรย์ ลำแรกเดินทางถึงเมืองอิวาคุนิ ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯแห่งเดียวบนเกาะฮอนชู เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกระทรวงกลาโหมมีแผนจะส่งเครื่องบินลำนี้ไปประจำการที่ฐานทัพอากาศนาวิกโยธินฟูเต็นมะ บนเกาะโอกินาวา
โครงการพัฒนาอากาศยานออสเปรย์ เป็นร่วมมือระหว่างเบลล์ เฮลิคอปเตอร์ เท็กซ์ตรอน กับ โบอิ้ง เพื่อมาแทนที่เฮลิคอปเตอร์รุ่น ซีเอช-46 ซี ไนต์ โดยสามารถบินได้ในระยะทางไกลและเร็วกว่า และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่าเดิม จึงเหมาะที่จะใช้บินระหว่างเกาะโอกินาวากับหมู่เกาะห่างไกลอื่นๆ ของญี่ปุ่น
