รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในออสเตรเลียระบุคะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีหญิง จูเลีย กิลลาร์ด รวมถึงรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเลเบอร์ พุ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือน
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากผลสำรวจความคิดเห็นของ “นีลเส็น โพล” ที่ทำให้กับหนังสือพิมพ์ “แฟร์แฟกซ์” รวมถึง “นิวส์โพล” ต่างระบุว่าคะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีหญิง วัย 50 ปี และรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของพรรคเลเบอร์ของเธอเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2013
ผลสำรวจของ “นีลเส็นโพล” ระบุว่า พรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีกิลลาร์ด มีคะแนนนิยมล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 47 แต่ยังคงตามหลังพรรคลิเบอรัล พรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของนายโทนี แอ็บบอตต์ที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 53
ขณะที่ผลสำรวจความเห็นที่จัดทำโดย “นิวส์โพล” ชี้ว่า คะแนนนิยมของพรรครัฐบาลออสเตรเลียและพรรคฝ่ายค้านล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 50 เท่ากัน โดยการที่คะแนนนิยมของพรรคเลเบอร์ภายใต้การนำของนางกิลลาร์ดพุ่งสูงถึงร้อยละ 50 นี้ ทางนิวส์โพลระบุว่าเป็นคะแนนนิยมสูงสุดในรอบ 18 เดือน
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า แม้คะแนนนิยมของพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นรัฐบาลจะยังไม่อาจแซงหน้าพรรคลิเบอรัลที่เป็นฝ่ายค้านได้ แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของคะแนนนิยมในพรรครัฐบาล นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า บรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแดนจิงโจ้เริ่มให้การยอมรับมากขึ้นต่อนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนางกิลลาร์ด โดยเฉพาะนโยบายการเก็บภาษีคาร์บอน รวมถึงนโยบายการเปิดศูนย์กักกันผู้อพยพอีกครั้งที่เกาะนาอูรู ในมหาสมุทรแปซิฟิก
อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวออสเตรเลียจำนวนไม่น้อยต่างพากัน “เทคะแนนสงสาร” ให้กับนางกิลลาร์ด หลังจากที่บิดาของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คะแนนนิยมในรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน