เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ยอดการส่งออกของสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาลดต่ำลง มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ สาเหตุสำคัญเกิดจากการส่งสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 10.4 เปอร์เซ็นต์และการที่บริษัทของสิงคโปร์ขายสินค้าไปยังยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุด ได้น้อยลงกว่าเดิมถึง 28.7 เปอร์เซ็นต์
รายงานข่าวระบุว่า ยอดการส่งออกสินค้าภายในประเทศซึ่งไม่รวมน้ำมันของสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคม ได้ปรับตัวลดลงถึง 10.6 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยวิกฤตหนี้สินที่ยืดเยื้อในยุโรป อัตราการว่างงานที่ยังพุ่งสูงเกินกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐฯ รวมถึงการที่เศรษฐกิจของจีนเริ่มชะลอตัว ต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดการส่งออกของสิงคโปร์ลดต่ำลง อย่างไรก็ดี รัฐบาลสิงคโปร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง วัย 60ปี ยังคงเชื่อมั่นว่า การส่งออกของสิงคโปร์ทั้งปี 2012 นี้อาจเพิ่มขึ้น 4.2 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่มุมมองของเซเลนา ลิง นักเศรษฐศาสตร์จาก “โอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิง คอร์ป” ในสิงคโปร์ ระบุว่า จะได้เห็นการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของสิงคโปร์อย่างชัดเจนในปีหน้า
ทั้งนี้ สิงคโปร์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางด้านการเงินที่สำคัญลำดับที่ 4 ของโลก รองจากกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ และเขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีระบบเศรษฐกิจซึ่งต้องพึ่งพารายได้จากการส่งออกอย่างมาก โดยเม็ดเงินจากการส่งออกมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 26 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีสิงคโปร์ ในแต่ละปี