นักวิจัยเผย วัคซีน “ไข้เลือดออก” แรกของโลก มีประสิทธิภาพน้อยกว่าคาดหวัง

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - นักวิจัยเผย วัคซีนต้นแบบป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัทซาโนฟี เอสเอ ผู้ผลิตยาของฝรั่งเศส และผ่านการทดสอบทางคลีนิคในประเทศไทย มีประสิทธิภาพด้อยกว่าที่คาดหวัง เนื่องจากไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ทุกสายพันธฺุ์

วัคซีนดังกล่าวซึ่งผ่านการทดสอบในเด็กมากกว่า 4,000 คน ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในชนบทของไทย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ได้ผลในการต้านเชื้อไวรัสสาเหตุของโรคนี้เพียง 3 ใน 4 สายพันธุ์

ผลลัพธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การค้นคว้ายังไม่สิ้นสุด แต่ยังมีข่าวดีคือ วัคซีนต้านเชื้อไข้เลือดออกที่ปลอดภัยนั้นยังมีความเป็นไปได้ คณะนักวิจัยเผยในวารสารทางการแพทย์ เดอะแลนเซ็ต

ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในแต่ละปี มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกอย่างเป็นทางการ 50-100 ล้านคน ในกว่า 100 ประเทศ ทั้งที่ในปี 1970 โรคดังกล่าวระบาดอยู่ในพื้นที่เพียง 9 ประเทศ

อย่างไรก็ตาม การค้นหาวัคซีนต้านโรคนี้เป็นเรื่องยากเย็น เนื่องจากเชื้อไวรัสสาเหตุของโรคมีอยู่ 4 สายพันธุ์ คือ เด็งกี่ 1, 2, 3 และ 4 ซึ่งล้วนแพร่กระจายอยู่ในพื้นที่โรคระบาด ประกอบกับเชื้อนั้นส่งผลเฉพาะกับมนุษย์ จึงไม่สามารถทำการทดสอบกับสัตว์ในห้องทดลองก่อนได้

การทดลองวัคซีน ซีวายดี-ทีพีวี ระยะที่ 2 บี กับเด็ก 2,669 คน ด้วยตัวยา 3 ขนาน ขณะที่เด็กอีก 1,333 คนได้รับยาหลอกนี้ พบว่า การป้องกันเชื้อเด็งกี่ 1, 3 และ 4 ได้ผล 55.6%, 75.3% และ 100% ตามลำดับ แต่เชื้อเด็งกี 2 นั้นกลับป้องกันได้เพียง 9.2% เท่านั้น

ด้าน ซาโนฟี ปาสเตอร์ บริษัทยายักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสชี้ว่า แม้ผลที่ออกมาจะน่าผิดหวัง แต่วัคซีนตัวนี้ก็ยังไม่ถือว่าจบสิ้นเสียทีเดียว

การทดลองวัคซีนดังกล่าว ในระยะที่ 3 ยังคงดำเนินต่อไปในประเทศอื่นอีกหลายประเทศ ซึ่งมีสภาพแตกต่างกันไป โดยอาจทำให้ผลที่ออกมาแตกต่างกันไป หรืออาจได้เคล็ดลับสำหรับทางออกในการขยายเกราะป้องกันของวัคซีนนี้ด้วยก็เป็นได้