เอเอฟพี - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนติมอร์ตะวันออกเป็นครั้งแรก พร้อมสนับสนุนให้รัฐบาลใช้หลักการพึ่งพาตนเอง ท่ามกลางความพยายามของจีนที่จะขยายอิทธิพลเข้ามาในภูมิภาคนี้
คลินตัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนประเทศเกิดใหม่แห่งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนักเรียนชาวติมอร์และคณะนักเต้นระบำเท้าเปล่า ขณะเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีที่กรุงดิลี ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนก่อสร้างจากจีน
ไฮไลต์สำคัญในกำหนดการเยือนเพียงครึ่งวันของคลินตัน อยู่ที่การไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตกาแฟ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการก่อสร้างในช่วงที่ติมอร์ตะวันออกยังเผชิญเหตุจลาจล ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีพนักงานราว 4,000 คน ซึ่งได้รับค่าจ้างราววันละ 8 ดอลลาร์ หรือ 2 เท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในประเทศ
“ดิฉันดื่มมันอยู่บ่อยๆ” คลินตัน ซึ่งพันผ้าพันคอแบบพื้นเมืองกล่าวขณะจิบกาแฟที่โรงงานติมอร์ คอฟฟี โคออปปะเรทีฟ ซึ่งอบอวลไปด้วยเสียงเมล็ดกาแฟที่กำลังถูกบรรจุลงถุงเพื่อส่งไปยังร้าน “สตาร์บัคส์” ในเมืองซีแอตเติล
พนักงานร้อยละ 80 ของโรงงานกาแฟแห่งนี้เป็นผู้หญิง และมีคลินิกที่ให้บริการด้านสุขภาพแก่แม่และเด็กโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขณะที่องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ก็ได้มอบเงินสนับสนุนโรงงานแห่งนี้ราว 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
การเยือนของคลินตันมีขึ้นหลังจากติมอร์ตะวันออกเพิ่งฉลองการได้รับเอกราชจากอินโดนีเซียครบ 10 ปีไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ขณะที่กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นซึ่งถูกส่งเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงวิกฤตการเมืองเมื่อปี 2006 ก็เตรียมถอนกำลังออกไปภายในสิ้นปีนี้
สหรัฐฯ เริ่มให้ความสำคัญต่อการผูกมิตรกับประเทศในเอเชียเพื่อคานอำนาจจีน ทว่าความหวังที่ติมอร์ตะวันออกจะได้เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นั้นดูยังริบหรี่ เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลว่าสภาพเศรษฐกิจและการเมืองของติมอร์ตะวันออกยังอ่อนแอและด้อยเสถียรภาพเกินไป
“นั่นจะเป็นภาระหนักสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน พวกเขามองว่าติมอร์ยังไม่พร้อม และยังต้องการความช่วยเหลืออีกมากกว่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทเทียบเท่าประเทศอื่นได้” เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้ติดตามคลินตันให้สัมภาษณ์บนเครื่องบิน
ติมอร์ตะวันออกตั้งอยู่คนละฟากฝั่งทะเลกับเมืองดาร์วินของออสเตรเลีย ซึ่งสหรัฐฯส่งนาวิกโยธินเข้าไปประจำการอยู่ราว 2,500 นายเพื่อกุมยุทธศาสตร์ในเอเชีย
แม้สหรัฐฯ กับจีนจะมีสายสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนัก แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าความร่วมมือระหว่างสองมหาอำนาจในด้านโครงสร้างพื้นฐานและโครงการความช่วยเหลือต่างๆ ในติมอร์ตะวันออก ยังเป็นไปด้วยดี
คลินตันมีกำหนดเดินทางถึงบรูไนในวันนี้ (6) ซึ่งจะทำให้เธอเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนแรกที่เดินทางเยือนอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศ