รอยเตอร์ - ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันมีมติแต่งตั้ง มิตต์ รอมนีย์ เป็นผู้แทนพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ วานนี้ (30) ขณะที่เจ้าตัวให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างอาชีพให้แก่พลเมืองอีกนับล้านตำแหน่ง พร้อมขอให้อเมริกันชนก้าวข้ามความผิดหวังที่เกิดขึ้นในรัฐบาลโอบามา
ในคำกล่าวสุนทรพจน์ยอมรับตำแหน่งผู้แทนพรรครีพับลิกัน รอมนีย์สัญญาว่าจะหลอมรวมสังคมอเมริกันให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง หลังจากที่เคยหลงเชื่อคำโฆษณาดิบดีของโอบามา แต่ก็ต้องหมดหวังว่าคำสัญญาเหล่านั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้
“สิ่งที่ประเทศของเราต้องการในวันนี้มิใช่เรื่องยุ่งยากหรือลึกซึ้งอะไรเลย และไม่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษใดๆ เพื่อมาบอกเราว่าอเมริกาต้องการอะไร สิ่งที่อเมริกาต้องการก็คืองาน ตำแหน่งงานจำนวนมาก” รอมนีย์กล่าว
การกล่าวสุนทรพจน์ของรอมนีย์ ณ ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน เมืองแทมปา มลรัฐฟลอริดา ถูกถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์สู่สายตาผู้ชมหลายสิบล้านคนทั่วสหรัฐฯ และเป็นโอกาสแรกสำหรับชาวอเมริกันบางคนที่จะได้ทำความรู้จักกับอดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ผู้นี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับรอมนีย์ที่จะเอาชนะใจกลุ่มอนุรักษนิยม และดึงเสียงประชาชนที่ยังไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดให้ร่วมกันปฏิเสธรัฐบาลโอบามา ซึ่งกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและอัตราการว่างงานที่สูงลิ่ว
รอมนีย์ยืนยันว่า ประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจของเขาจะเป็นประโยชน์ในการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมสัญญาจะสร้างงานเพิ่มถึง 12 ล้านตำแหน่ง และยังหยิบยกคำสัญญาของ โอบามา เมื่อปี 2008 มาเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงหลังบริหารประเทศมา 4 ปีเต็ม
เขาชี้ว่า ชาวอเมริกันปรารถนาที่จะเชื่อในตัวโอบามา แต่แล้วก็ต้องผิดหวังกับผู้นำที่ล้มเหลว
“ความหวังและการเปลี่ยนแปลงมีอานุภาพยิ่งใหญ่เสมอ แต่ในค่ำคืนนี้ผมจะขอถามเพียงคำถามง่ายๆว่า ถ้าคุณเคยรู้สึกตื่นเต้นที่จะโหวตให้ บารัค โอบามา คุณจะไม่รู้สึกเช่นนั้นหรือเมื่อเขาได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว?”
“ทุกท่านทราบดีถึงการทำงานที่ผิดพลาดของเขาในฐานะประธานาธิบดี และช่วงเวลาที่คุณเคยมีความประทับใจต่อเขามากที่สุด ก็คือวันที่คุณได้ลงคะแนนให้กับเขา”
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญในงานประกาศตัวผู้แทนพรรครีพับลิกันก็คือการปรากฏตัวของพระเอกหนังรุ่นลายคราม คลินต์ อีสต์วูด ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ไม่น้อย
“ถ้าใครไม่ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เราก็ต้องไล่เขาออกไป” อีสต์วูดกล่าวสั้นๆ