เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ศาลสูงยูเครนปฏิเสธคำอุทธรณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง อูย์เลีย ทีโมเชนโค ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 7 ปีฐานใช้อำนาจโดยมิชอบทำตกลงเรื่องก๊าซกับรัสเซียเมื่อปี 2009 วันนี้ (29) และคาดว่าคำตัดสินดังกล่าวจะยิ่งสร้างความไม่พอใจต่อชาติตะวันตกที่เชื่อว่าการเอาผิดกับทีโมเชนโคมาจากเหตุจูงใจทางการเมือง
กลุ่มผู้สนับสนุนนายกฯหญิงซึ่งเป็นอดีตผู้นำการปฏิวัติสีส้มปี 2004 ต่างโบกธงประจำพรรค Batkivshchyna ของเธอ ระหว่างรอฟังคำตัดสินอย่างสงบที่หน้าศาลในกรุงเคียฟ
“คณะผู้พิพากษาพิจารณาเห็นว่าไม่สามารถยอมตามคำอุทธรณ์ของทีโมเชนโคได้” ผู้พิพากษาโอเลซานเดอร์ เอลฟิมอฟ กล่าวในศาล พร้อมระบุว่า “คณะผู้พิพากษาไม่เห็นเหตุผลอันควรในคำอุทธรณ์ดังกล่าว”
คำพิพากษาของศาลสูงสุดยูเครนหมายความว่า ทีโมเชนโคหมดหนทางที่จะต่อสู้ในคดีในประเทศของตน และสามารถยื่นคำร้องต่อศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปต่อไป
เมื่อวานนี้ (28) ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ณ เมืองสตราสบูร์ก ได้เริ่มพิจารณาว่า การกักขัง ทีโมเชนโค ก่อนจะตัดสินความผิดของเธอนั้นมีเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่ และสภาพแวดล้อมในที่คุมขังเข้าข่ายละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเธอหรือไม่อย่างไร
ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งสหภาพยุโรปไม่มีอำนาจที่จะก้าวก่ายคดีของทีโมเชนโค จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรมภายในยูเครนเองเสียก่อน
ทีโมเชนโค ถูกจำคุกตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ด้วยความผิดฐานก้าวล่วงอำนาจประธานาธิบดีทำข้อตกลงซื้อก๊าซจากรัสเซียในราคาสูงเกินจริงเมื่อปี 2009 จนเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจของยูเครน
ทนายฝ่ายจำเลยและชาติตะวันตกซึ่งมองว่าทีโมเชนโคถูกกลั่นแกล้ง เรียกร้องให้ประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช เร่งดำเนินการปล่อยตัวอดีตนายกฯหญิงซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองตัวฉกาจของเขา
แม้ทนายจำเลยจะคาดหวังชัยชนะจากคำพิพากษาของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป แต่อดีตนายกฯ หญิงผมบลอนด์ก็อาจไม่ได้รับอิสรภาพโดยง่าย เพราะเธอยังต้องต่อสู้ข้อหายักยอกเงินและหลีกเลี่ยงภาษีสมัยที่ยังทำธุรกิจในทศวรรษที่ 1990 ซึ่งคดีดังกล่าวถูกเลื่อนพิจารณามาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากปัญหาสุขภาพของทีโมเชนโค