รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส กัลเดรอน ผู้นำโคลอมเบีย เผยที่กรุงโบโกตาเมื่อวันจันทร์ (27) ระบุ ต้องการเจรจาสันติภาพกับกองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติโคลอมเบีย (เอฟเออาร์ซี) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏนิยมซ้ายที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อปิดฉากสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานหลายสิบปี
ผู้นำโคลอมเบีย วัย 61 ปีซึ่งก้าวเข้ามาครองอำนาจตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2010 แถลงจุดยืนดังกล่าวระหว่างการปรากฏตัวทางโทรทัศน์ โดยระบุ รัฐบาลของเขาได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของรัฐบาลหลายชุดก่อนหน้านี้ ที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ยั่งยืนกับกลุ่มเอฟเออาร์ซี ที่จับอาวุธทำสงครามกองโจรกับรัฐบาลโคลอมเบียมาตั้งแต่ ค.ศ.1964
“เรากำลังมองหาลู่ทางที่เป็นไปได้ในการเจรจากับกลุ่มกบฏเพื่อยุติความขัดแย้ง” ประธานาธิบดีมานูเอล ซานโตสกล่าว พร้อมยืนยันจะเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องนี้เพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้าถือเป็นการตอกย้ำกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัดมานานหลายสัปดาห์ว่า รัฐบาลของเขากำลังเจรจาแบบลับๆกับแกนนำของเอฟเออาร์ซี
หากการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏที่ใหญ่ที่สุดของประเทศประสบความสำเร็จ จะส่งผลให้ประธานาธิบดีมานูเอล ซานโตส กลายเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ยุติสงครามกลางเมืองโคลอมเบียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเรือนหมื่นตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ด้านแหล่งข่าวภายในหน่วยข่าวกรองโคลอมเบียเผยว่า ส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มเอฟเออาร์ซี คือ การให้หลักประกันว่า บรรดาแกนนำของกลุ่มกบฏ จะไม่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศอื่น รวมถึงสหรัฐฯ เพื่อรับการพิจารณาความผิด ส่วนสถานที่เจรจาสันติภาพอาจมีขึ้นที่กรุงฮาวานา นครหลวงของคิวบา หรือที่นอร์เวย์ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯก็ได้ทราบถึงท่าทีล่าสุดของรัฐบาลโคลอมเบียแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติ หรือ “เอล” กลุ่มกบฏที่ใหญ่อันดับ 2 ของโคลอมเบีย อาจเข้าร่วมเจรจาสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์นี้เช่นกัน
